เมนู

ประชุมสงฆ์ทรงสอบถาม


ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้ารับสั่งให้ประชุมภิกษุสงฆ์ ในเพราะเหตุ
เป็นเค้ามูลนั้น ในเพราะเหตุแรกเกิดนั้น แล้วทรงสอบถามภิกษุทั้งหลายว่า
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ข่าวว่า ภิกษุทั้งหลายอันทายกนิมนต์ไว้แห่งอื่น ฉันยาคู
ที่แข้นของผู้อื่นจริงหรือ ?
ภิกษุทั้งหลายทูลรับว่า จริง พระพุทธเจ้าข้า.

พระพุทธบัญญัติห้ามฉันยาคูที่แข้น


พระผู้มีพระภาคพุทธเจ้า ทรงติเตียนว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ไฉน
โมฆบุรุษเหล่านั้น อันทายกนิมนต์ไว้แห่งอื่น จึงได้ฉัน ยาคที่แข้นของผู้อื่นเล่า
การกระทำของพวกโมฆบุรุษนั้น ไม่เป็นไปเพื่อความเลื่อมใสของชุมชนที่ยัง
ไม่เลื่อมใส. . . ครั้นแล้วทรงทำธรรมีกถารับสั่งกะภิกษุทั้งหลายว่า ดูก่อนภิกษุ
ทั้งหลาย ภิกษุอันทายกนิมนต์ไว้แห่งอื่น ไม่พึงฉันยาคูที่แข้นของผู้อื่นรูปใด
ฉัน พึงปรับอาบัติตามธรรม.

เรื่องพราหนณ์เวลัฏฐกัจจานะถวายงลบนาอ้อย


[65] ครั้งนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ในอันธกวินทชนบท
ตามพระพุทธาภิรมย์ แล้วเสด็จพระพุทธดำเนินมุ่งไปทางพระนครราชคฤห์
พร้อมด้วยภิกษุสงฆ์หมู่ใหญ่ประมาณ 1,250 รูป คราวนั้น พราหมณ์เวลัฏฐ-
กัจจานะ เดินทางไกลแต่พระนครราชคฤห์ไปยังอันธกวินทชนบท พร้อมด้วย
เกวียนประมาณ 500 เล่มล้วนบรรทุกหม้องบน้ำอ้อยเต็มทุกเล่ม พระผู้มี
พระภาคเจ้าได้ทอดพระเนตรเห็นเวลัฏฐกัจจานะกำลังมาแต่ไกล ครั้นแล้ว
เสด็จแวะออกจากทางประทับนั่ง ณ โคนไม้แห่งหนึ่ง.

พราหมณ์เวลัฏฐกัจจานะ จึงเดินเข้าไปถึงที่ประทับ ถวายบังคม
พระผู้มีพระภาคเจ้า แล้วได้ยืนอยู่ ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ครั้นแล้วได้ทูลคำนี้
แด่พระผู้มีพระภาคเจ้าว่า พระพุทธเจ้าข้า ข้าพระพุทธเจ้าปรารถนาจะถวาย
งบน้ำอ้อย แก่ภิกษุรูป 1 หม้อ.
พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า ดูก่อนกัจจานะ ถ้าเช่นนั้น เธอจงนำ
งบน้าอ้อยมาแต่เพียงหม้อเดียว.
พราหมณ์เวลัฏฐกัจจานะทูลรับสนองพระพุทธดำรัสว่า เป็นอย่างนั้น
พระพุทธเจ้าข้า แล้วนำงบน้ำอ้อยมาแต่หม้อเดียว เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้า
แล้วได้ทูลคำนี้แด่พระผู้มีพระภาคเจ้าว่า หม้องบน้ำอ้อย ข้าพระพุทธเจ้านำ
มาแล้ว พระพุทธเจ้าข้า ข้าพระพุทธเจ้าจะปฏิบัติอย่างไร ต่อไป ?
พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า ดูก่อนกัจจานะ ถ้าเช่นนั้น เธอจงถวาย
งบน้ำอ้อยแก่ภิกษุทั้งหลาย.
พราหมณ์เวลัฏฐกัจจานะ ทูลรับสนองพระพุทธดำรัสว่า เป็นอย่างนั้น
พระพุทธเจ้าข้า แล้วถวายงบน้ำอ้อยแก่ภิกษุทั้งหลาย แล้วได้กราบทูลคำนี้แด่
พระผู้มีพระภาคเจ้าว่า งบน้ำอ้อยข้าพระพุทธเจ้าถวายแก่ภิกษุทั้งหลาย พระ-
พุทธเจ้าข้า แต่งบน้ำอ้อยนี้ยังเหลืออยู่มาก ข้าพระพุทธเจ้าจะปฏิบัติอย่างไร
พระพุทธเจ้าข้า.
พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า ดูก่อนกัจจานะ ถ้าอย่างนั้น เธอจงถวาย
งบน้ำอ้อยแก่ภิกษุทั้งหลายจนพอแกความต้องการ.
พราหมณ์เวลัฏฐกัจจานะ ทูลรับสนองพระพุทธดำรัสว่าเป็นอย่างนั้น
พระพุทธเจ้าข้า แล้ว ถวายงบน้ำอ้อยแก่ภิกษุทุกรูป จนพอแก่ความต้องการ
แล้วได้ทูลคำนี้ แด่พระผู้มีพระภาคเจ้าว่า งบน้ำอ้อยข้าพระพุทธเจ้าถวายแก่ภิกษุ

ทั้งหลายจนพอแก่ความต้องการแล้ว พระพุทธเจ้าข้า แต่งบน้ำอ้อยนี้ยังเหลือ
อยู่มาก ข้าพระพุทธเจ้าจะปฏิบัติอย่างไร พระพุทธเจ้าข้า
พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า ดูก่อนกัจจานะ. ถ้าเช่นนั้น เธอจงอังคาส
ภิกษุทั้งหลายด้วยงบน้ำอ้อยให้อิ่มหนำ.
พราหมณ์เวลัฏฐกัจจานะทูลรับสนองพระพุทธดำรัสว่า เป็นอย่างนั้น
พระพุทธเจ้าข้า แล้วอังคาสภิกษุทั้งหลายด้วยงบน้ำอ้อยให้อิ่มหนำ ภิกษุบาง
พวกบรรจุงบน้ำอ้อยเต็มบาตรบ้าง เต็มหม้อกรองน้ำบ้าง เต็มถุงย่ามบ้าง ครั้น
พราหมณ์เวลัฎฐกัจจานะอังคาสภิกษุทั้งหลายด้วยงบน้ำอ้อยให้อิ่มหนำแล้วได้ทูล
คำนี้แด่พระผู้มีพระภาคเจ้าว่า ภิกษุทั้งหลายอันข้าพระพุทธเจ้าอังคาสด้วยงบ
น้ำอ้อยให้อิ่มหนำแล้วพระพุทธเจ้าข้า แต่งบน้ำอ้อยนี้ยังเหลืออยู่มาก ข้าพระ-
พุทธเจ้าจะปฏิบัติอย่างไร พระพุทธเจ้าข้า ?
พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า ดูก่อนกัจจานะ ถ้าเช่นนั้น เธอจงให้งบ
น้ำอ้อยแก่พวกคนกินเดน.
พราหมณ์เวลัฎฐกจัจานะ ทูลรับสนองพระพุทธดำรัสว่า เป็นอย่างนั้น
พระพุทธเจ้าข้า แล้วจึงให้งบน้ำอ้อยแก่พวกคนกินเดน แล้วได้ทูลคำนี้แด่
พระผู้มีพระภาคเจ้าว่า งบน้ำอ้อยข้าพระพุทธเจ้าให้พวกคนกินเดนแล้ว พระ-
พุทธเจ้าข้า แต่งบน้ำอ้อยนี้ยังเหลืออยู่มาก ข้าพระพุทธเจ้าจะปฏิบัติอย่างไร
พระพุทธเจ้าข้า ?
พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า ดูก่อนกัจจานะ ถ้าอย่างนั้น เธอจงให้
งบน้ำอ้อยแก่พวกคนกินเดน จนพอแก่ความต้องการ.
พราหมณ์เวลัฏฐกัจจานะ ทูลรับสนองพระพุทธดำรัสว่า เป็นอย่างนั้น
พระพุทธเจ้าข้า แล้ว จึงให้งบน้ำอ้อยแก่พวกคนกินเดน จนพอแก่ความต้อง

การแล้วได้ทูลคำนี้แด่พระผู้มีพระภาคเจ้าว่า งบน้ำอ้อยข้าพระพุทธเจ้าให้พวก
คนกินเดนจนพอแก่ความต้องการแล้ว พระพุทธเจ้าข้า แต่งบน้ำอ้อยนี้ยังเหลือ
อยู่มาก ข้าพระพุทธเจ้าจะปฏิบัติอย่างไรต่อไป พระพุทธเจ้าข้า ?
พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า ดูก่อนกัจจานะ ถ้าเช่นนั้น เธอจงเลี้ยงดู
พวกคนกินเดนให้อิ่มหนำ ด้วยงบน้ำอ้อย.
พราหมณ์เวลัฏฐกัจจานะ ทูลรับสนองพระพุทธดำรัสว่า เป็นอย่าง
นั้นพระพุทธเจ้าข้า แล้วเลี้ยงดูพวกคนกินเดนให้อิ่มหนำด้วยงบน้ำอ้อย คน
กินเดนบางพวกบรรจุงบน้ำอ้อยเต็มกระป๋องบ้าง เต็มหม้อน้ำบ้าง ห่อเต็ม
ผ้าขาวปูลาดบ้าง เต็มพกบ้าง ครั้นพราหมณ์เวลัฎฐกัจจานะเลี้ยงดูพวกคนกิน
เดนไห้อิ่มหนำด้วยงบน้ำอ้อย แล้วทูลคำนี้แด่พระผู้มีพระภาคเจ้าว่า พวกคน
กินเดนอันข้าพระพุทธเจ้าเลี้ยงดูด้วยงบน้ำอ้อยให้อิ่มหนำแล้ว พระพุทธเจ้าข้า
แต่งบน้ำอ่อยนี้ยังเหลืออยู่มาก ข้าพระพุทธเจ้าจะปฏิบัติอย่างไรต่อไป พระ
พุทธเจ้าข้า ?
พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า ดูก่อนกัจจานะ ทั่วโลกนี้พร้อมทั้งเทวโลก
มารโลกพรหมโลก ทั่วทุกหมู่สัตว์ พร้อมทั้งสมณพราหมณ์เทวดาและมนุษย์
เราไม่เล็งเห็นบุคคลผู้ที่บริโภคงบน้ำอ้อยนั้นแล้วจะให้ย่อยได้ดี นอกจากตถาคต
หรือสาวกของตถาคต ดูก่อนกัจจานะ ถ้าเช่นนั้น เธอจงทิ้งงบน้ำอ้อยนั้นเสีย
ในสถานที่อันปราศจากของเขียงสด หรือจงเทเสียในน้ำซึ่งปราศจากตัวสัตว์.
พราหมณ์เวลัฏฐกัจจานะ ทูลรับสนองพระพุทธดำรัสว่า เป็นอย่างนั้น
พระพุทธเจ้าข้า แล้วเทงบน้ำอ้อยนั้นลงในน้ำซึ่งปราศจากตัวสัตว์ งบน้ำอ้อย
ที่เทลงในน้ำนั้น เดือดพลุ่ง ส่งเสียงดังจิฏิจิฏิ พ่นไอพ่นควันทันที เปรียบ
เหมือนผาลที่ร้อนโชนตลอดวันอันบุคคลจุ่มลงในน้ำ ย่อมเดือดพลุ่ง ส่งเสียง

ดังจิฏิจิฏิ พ่นไอพ่นควันอยู่ แม้ฉันใด งบน้ำอ้อยที่เทลงในน้ำนั้น ย่อม
เดือดพล่าน ส่งเสียงดังจิฏิจิฏิ พ่นไอพ่นควันอยู่ ฉันนั้นเหมือนกัน.
พราหมณ์เวลัฏฐกัจจานะ สลดใจ บังเกิดโลมชาติชูชนทันที แล้ว
เข้าไปในพุทธสำนัก ถวายบังคมพระผู้มีพระภาคเจ้า นั่งอยู่ ณ ที่ควรส่วน
ข้างหนึ่ง.

ทรงแสดงอนุปุพพิกถาและจตุราริยสัจ


เมื่อพราหมณ์เวลัฏฐกัจจานะนั่งอยู่ ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่งแล้ว พระ-
ผู้มีพระภาคเจ้าจึงทรงแสดงอนุปุพพิกถา คือ ทรงประกาศ ทานกถา สีลกถา
สัคคกถา ซึ่งโทษแห่งกามอันต่ำทรามอันเศร้าหมอง และอานิสงส์ในความ
ออกจากกาม เมื่อพระผู้มีพระภาคเจ้าทรงทราบว่าพราหมณ์เวลัฏฐกัจจา-
นะมีจิตสงบ มีจิตอ่อน มีจิตปลอดจากนิวรณ์ มีจิตเบิกบาน มีจิตผ่อง-
ใสแล้ว จึงทรงประกาศพระธรรมเทศนาที่พระพุทธเจ้าทั้งหลายทรงยกขึ้นแสดง
ด้วยพระองค์เอง คือ ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค ดวงตาเห็นธรรมปราศจาก
ธุลี ปราศจากมลทินได้เกิดแก่พราหมณ์เวลัฏฐกัจจานะ ณ ที่นั่งนั้นแลว่า สิ่ง
ใดสิ่งหนึ่งมีความเกิดขึ้นเป็นธรรมดา สิ่งนั้นทั้งมวลมีความดับเป็นธรรมดา
ดุจผ้าสะอาดปราศจากมลทิน ควรได้รับน้ำย้อมเป็นอย่างดีฉะนั้น ครั้นพราหมณ์
เวลัฏฐกัจจานะได้เห็นธรรมแล้ว ได้บรรลุธรรมแล้ว ได้รู้ธรรมแจ่มแจ้งแล้ว
มีธรรมอันหยังลงแล้ว ข้ามความสงสัยได้แล้ว ปราศจากถ้อยคำแสดงความ
สงสัยแล้ว ถึงความเป็นผู้แกล้วกล้า ไม่ต้องเชื่อผู้อื่น ในคำสอนของพระศาสดา
ได้ทูลคำนี้แด่พระผู้มีพระภาคเจ้าว่า ภาษิตของพระองค์แจ่มแจ้งนัก พระพุทธ-
เจ้าข้า ภาษิตของพระองค์ไพเราะนัก พระพุทธเจ้าข้า พระผู้มีพระภาคเจ้า
ทรงประกาศธรรมโดยอเนกปริยายอย่างนี้ เปรียบเหมือนบุคคลหงายของที่คว่ำ