เมนู

พวกเธอในภายหลัง. ถ้าภิกษุผู้ปวารณาแล้ว ในวันมหาปวารณามีมาก ภิกษุผู้
จำพรรษาหลังมีน้อยหรือมีรูปเดียว เมื่อพวกภิกษุผู้จำพรรษาต้นสวดปาติโมกข์
เสร็จแล้ว ภิกษุผู้จำพรรษาหลังนั้น พึงปวารณาในสำนักของพวกเธอ.

สามัคคีปวารณา


วินิจฉัยในข้อว่า น จ ภิกฺขเว อปฺปวารณาย ปวาเรตพฺพํ
อญฺญตฺร สงฺฆสามคฺคิยา
นี้ พึงทราบดังนี้:-
ความพร้อมเพรียงพึงทราบว่า เป็นเช่นกับความพร้อมเพรียงของภิกษุ
ชาวเมืองโกสัมพีเถิด. ก็แลพึงทำบุพกิจ ในกาลแห่งสามัคคีปวารณานี้ อย่าง
นี้ว่า อชฺช ปวารณา สามคฺคี แปลว่า ปวารณาวันนี้ เป็นคราวปรองดองกัน.
ฝ่ายภิกษุเหล่าใด งดปวารณาเสียเพราะเหตุเล็กน้อย ซึ่งไม่สำคัญอะไร แล้ว
เป็นผู้พร้อมเพรียงกันเจ้าได้, ภิกษุเหล่านั้น พึงทำปวารณา ในวันปวารณาเท่า
นั้น. ฝ่ายภิกษุทั้งหลายผู้จะทำสามัคคีปวารณา พึงงดวันปฐมปวารณาเสีย พึง
ทำในระหว่างนี้ คือตั้งแต่แรมค่ำหนึ่ง ไปจนถึงกลางเดือน 12 ซึ่งเป็นวันครบ
4 เดือน จะทำภายหลังหรือก่อนกำหนดนั้นไม่ควร.

ญัตติวิธาน


วินิจฉัยในข้อว่า เทฺววาจิกํ ปวาเรตุํ นี้ พึงทราบดังนี้:-
เฉพาะภิกษุผู้ตั้งญัตติ พึงกล่าวว่า ยติ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, สงฺโฆ
เทฺววาจิกํ ปวาเรยฺย
แปลว่า ถ้าความพร้อมพรั่งของสงฆ์ถึงที่แล้ว สงฆ์พึง
ปวารณา 2 หน.
ในการปวารณาหนเดียว พึงกล่าวว่า เอกวาจิกํ ปวาเรยฺย แปล
ว่า พึงปวารณาหนเดียว.