เมนู

วัสสูปนายิกขันธกะ


เรื่องภิกษุหลายรูป


[205] โดยสมัยนั้น พระผู้มีพระภาคพุทธเจ้า ประทับอยู่ ณ พระ
เวพุวัน อันเป็นสถานที่พระราชทานเหยื่อแก่กระแต เขตพระนครราชคฤห์
ครั้งนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้ายังมิได้ทรงบัญญัติการจำพรรษาแก่ภิกษุทั้งหลาย
ภิกษุเหล่านั้น เที่ยวจาริกไปตลอดฤดูหนาว ฤดูร้อน และฤดูฝน คนทั้งหลาย
จึงเพ่งโทษ ติเตียน โพนทะนาว่า ไฉนพระสมณะเชื้อสายพระศากยบุตร จึง
ได้เทียวจาริกไปตลอดฤดูหนาว ฤดูร้อน และฤดูฝน เหยียบย่ำติณชาติอัน
เขียวสด เบียดเบียนอินทรีย์อย่าง 1 ซึ่งมีชีวะ ยังสัตว์เล็ก ๆ จำนวนมากให้
ถึงความวอดวายเล่า ก็พวกปริพาชกอัญญเดียรถีย์เหล่านั้นเป็นผู้กล่าวธรรมอัน
ต่ำทราม ยังพัก ยังอาศัยอยู่ประจำตลอดฤดูฝน อนึ่ง ฝูงนกเหล่านี้เล่า ก็ยัง
ทำรังบนยอดไม้ และพักอาศัยอยู่ประจำตลอดฤดูฝน ส่วนพระสมณะเชื้อสาย
ศากยบุตรเหล่านั้น เที่ยวจาริกไปตลอดฤดูหนาว ฤดูร้อน และฤดูฝน เหยียบ
ย่าติณชาติอันเขียวสด เบียดเบียน อินทรีย์อย่าง 1 ซึ่งชีวะ ยังสัตว์เล็ก ๆ
จำนวนมากให้ถึงความวอดวาย ภิกษุทั้งหลายได้ยินคนพวกนั้น เพ่งโทษ ติเตียน
โพนทะนา จึงกราบทูลเรื่องนั้น แด่พระผู้มีพระภาคเจ้า
ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงทำธรรมีกถาในเพราะเหตุเป็นเค้ามูล
นั้น ในเพราะเหตุแรกเกิดนั้น แล้วรับสั่งกะภิกษุทั้งหลายว่า ดูก่อนภิกษุทั้ง-
หลาย เราอนุญาต ให้จำพรรษา.

การจำพรรษา 2 อย่าง


[206] ครั้งนั้น ภิกษุทั้งหลายคิดกันว่า พวกเราพึงจำพรรษาเมื่อไร
หนอ แล้วกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า พระผู้มีพระภาคเจ้ารับสั่งว่า
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตให้จำพรรษาในฤดูฝน.
ครั้งนั้น ภิกษุทั้งหลายติดกันว่า วันเข้าพรรษามีกี่วันหนอ จึงกราบทูล
เรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า พระผู้มีพระภาคเจ้ารับสั่งว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย
วันเข้าพรรษานี้มี 2 คือ ปุริมิกา วันเข้าพรรษาต้น 1 ปัจฉิมิกา วันเข้า
พรรษาหลัง เมื่อพระจันทร์เพ็ญเสวยฤกษ์อาสาฬหะล่วงไปแล้ววัน 1 พึง
เข้าพรรษาต้น 1 เมื่อพระจันทร์เพ็ญเสวยฤกษ์อาสาฬหะล่วงไปแล้วเดือน 1
พึงเข้าพรรษาหลัง ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย วันเข้าพรรษามี 2 วันเท่านี้แล.

พระฉัพพัคคีย์เที่ยวจาริทุกเวลา


[207] ก็โดยสมัยนั้นแล พระฉัพพักคีย์จำพรรษาแล้ว ยังเที่ยวจาริก
ในระหว่างพรรษา คนทั้งหลายจึงเพ่งโทษ ติเตียน โพนทะนาเช่นนั้นแหละ
ว่าไฉน พระสมณะเชื้อสายศากยบุตร จึงได้เที่ยวจาริกตลอดฤดูหนาว
ฤดูร้อน และฤดูฝน เหยียบย่ำติณชาติอันเขียวสด เบียดเบียนอินทรีย์อย่าง
หนึ่งซึ่งมีชีวะ ยังสัตว์เล็ก ๆ มีจำนวนมากให้ถึงความวอดวายเล่า ก็พวกอัญญ
เดียรถีย์เหล่านี้เป็นผู้กล่าวธรรมอันค่ำทราม ยังพักอาศัยอยู่ประจำตลอดฤดูฝน
อนึ่ง ฝูงนกเหล่านั้นเล่า ก็ยังทำรังบนยอดไม้แล้วพักอาศัยอยู่ประจำตลอดฤดูฝน
ส่วนพระสมณะเชื้อสายศากยบุตรเหล่านั้น เที่ยวจาริกตลอดฤดูหนาว ฤดูร้อน
และฤดูฝนเหยียบย่ำติณชาติอันเขียวสด เบียดเบียนอินทรีย์อย่างหนึ่งซึ่งมีชีวะ
ยังสัตว์เล็ก ๆ ซึ่งมีจำนวนมากให้ถึงความวอดวาย ภิกษุทั้งหลายได้ยินคนพวก
นั้นเพ่งโทษ ติเตียน โพนทะนา บรรดาที่เป็นผู้มักน้อยต่างก็เพ่งโทษ ติเตียน