เมนู

ครั้นแล้วพึงทำอุโบสถฟังปาติโมกข์ แต่ไม่พึงทำอันตรายแก่อุโบสถ เพราะข้อที่
สงสัยนั้นเป็นปัจจัย.

สงฆ์ต้องสภาคาบัติ


[189] ก็โดยสมัยนั้นแล ในอาวาสแห่ง 1 ถึงวันอุโบสถ สงฆ์
ทั้งหมดต้องสภาคาบัติ จึงภิกษุเหล่านั้นได้มีความปริวิตกว่า พระผู้มีพระภาคเจ้า
ทรงบัญญัติไว้ว่า ภิกษุจะแสดงสภาคาบัติไม่ได้ จะรับแสดงสภาคาบัติไม่ได้
ดังนี้ ก็สงฆ์หมู่นี้ ล้วนต้องสภาคาบัติแล้ว พวกเราจะพึงปฏิบัติอย่างไรหนอ ๆ
แล้วกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า ๆ รับสั่งกะภิกษุทั้งหลายว่า ดูก่อน
ภิกษุทั้งหลาย ก็ในอาวาสแห่ง 1 ถึงวันอุโบสถ สงฆ์ทั้งหมดในศาลนานี้ ต้อง
สภาคาบัติ ภิกษุเหล่านั้นพึงส่งภิกษุรูป 1 ไปสู่อาวาสใกล้เคียง พอจะกลับมา
ทันในวันนั้น ด้วยสั่งว่า อาวุโสเธอจงไปทำคืนอาบัตินั้นแล้วมา พวกเราจักทำ
คืนอาบัติในสำนักเธอ ถ้าได้ภิกษุเช่นนั้นอย่างนี้ นั่นเป็นการดี ถ้าไม่ได้ ภิกษุ
ผู้ฉลาด ผู้สามารถ พึงประกาศให้สงฆ์ทราบด้วยญัตติกรรมวาจา ว่าดังนี้:-

ญัตติกรรมวาจา


ท่านเจ้าข้า ขอสงฆ์จงฟังข้าพเจ้า สงฆ์ทั้งหมดนี้ต้อง
สภาคาบัติ เห็นภิกษุรูปอื่น ผู้บริสุทธิ์ ไม่มีอาบัติเมื่อใด จักทำคืน
อาบัตินั้นในสำนักเธอเมื่อนั้น ครั้นแล้วพึงทำอุโบสถสวดปาติโมกข์
แต่ไม่พึงทำอันตรายแก่อุโบสถ เพราะข้อที่ต้องสภาคาบัตินั้นเป็น
ปัจจัย.