เมนู

กรรมวาจาสมนติติจีวราวิปปวาส


ท่านเจ้าข้า ขอสงฆ์จงฟังข้าพเจ้า สีมานั้นใดอันสงฆ์สมมติ
ไว้แล้ว ให้มีสังวาสเสมอกัน มีอุโบสถเดียวกัน ถ้าความพร้อมพรั่ง
ของสงฆ์ถึงที่แล้ว สงฆ์พึงสมมติสีมานั้น ให้เป็นแดนไม่อยู่ปราศ-
จากไตรจีวร เว้นบ้านและอุปจารแต่งบ้าน นิเป็นญัตติ.
ท่านเจ้าข้า ขอสงฆ์จงพึงข้าพเจ้า สีมานั้นใดอันสงฆ์สมมติ
ไว้แล้วให้มีสังวาสเสมอกัน มีอุโบสถเดียวกัน สงฆ์สมมติอยู่ บัดนี้
ซึ่งสีมานั้น ให้เป็นแดนไม่อยู่ปราศจากไตรจีวร เว้นบ้านและอุป-
จารแห่งบ้าน การสมมติสีมานี้ให้เป็นแดนไม่อยู่ปราศจากไตรจีวร
เว้นบ้านและอุปจารแห่งบ้าน ชอบแก่ท่านผู้ใด ท่านผู้นั้นพึงเป็นผู้
นิ่ง ไม่ชอบแก่ท่านผู้ใด ท่านผู้นั้นพึงพูด.
สีมานั้นสงฆ์สมมติให้เป็นแดนไม่อยู่ปราศจากไตรจีวร เว้น
บ้านและอุปจารแห่งบ้านแล้ว ชอบแก่สงฆ์เหตุนั้นจึงนิ่ง ข้าพเจ้า
ทรงความนี้ไว้ ด้วยอย่างนี้.

[163] พระผู้มีพระภาคเจ้ารับสั่งกะภิกษุทั้งหลายว่า ดูก่อนภิกษุทั้ง
หลาย เมื่อภิกษุจะสมมติสีมา พึงสมมติสมานสังวาสสีมาก่อน ภายหลังจึงสมมติ
ติจีวราวิปปวาส เมื่อจะถอนสีมา พึงถอนติจีวราวิปปวาสก่อน ภายหลังจึงถอน
สมานสังวาสสีมา.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็แล พึงถอนติจีวราวิปปวาสอย่างนี้.
ภิกษุผู้ฉลาด ผู้สามารถ พึงประกาศให้สงฆ์ทราบด้วยญัตติทุติยกรรม
วาจา ว่าดังนี้:-