เมนู

ภิกษุเดินทางไกลไม่ต้องถือนิสัย


[137] ก็โดยสมัยนั้นแล ภิกษุรูปหนึ่งเดินทางไกลไปโกศลชนบท
คราวนั้นเธอได้มีความดำริว่า พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงบัญญัติไว้ว่า ภิกษุจะ
ไม่ถือนิสัยอยู่ไม่ได้ ดังนี้ ก็เรามีหน้าที่ต้องถือนิสัยแต่จำต้องเดินทางไกล จะ
พึงปฏิบัติอย่างไรหนอแล ภิกษุทั้งหลายจึงกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระ-
ภาคเจ้า พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสอนุญาตแก่ภิกษุทั้งหลายว่า ดูก่อนภิกษุทั้ง
หลาย เราอนุญาตให้ภิกษุผู้เดินทางไกลเมื่อไม่ได้ผู้ให้นิสัย ไม่ต้องถือนิสัยอยู่.

ภิกษุอาพาธไม่ต้องถือนิสัย


[138] ก็โดยสมัยนั้นแล ภิกษุ 2 รูปเดินทางไกลไปโกศลชนบท
เธอทั้ง 2 พักอยู่ ณ อาวาสแห่งหนึ่ง ในภิกษุ 2 รูปนั้น รูป 1 อาพาธ จึง
รูปที่อาพาธนั้นได้มีความดำริว่า พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงบัญญัติไว้ว่า ภิกษุ
จะไม่ถือนิสัยอยู่ไม่ได้ ก็เรามีหน้าที่ต้องถือนิสัย แต่กำลังอาพาธ จะพึงปฏิบัติ
อย่างไรหนอแล ภิกษุทั้งหลายจึงกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า พระ
ผู้มีพระภาคเจ้าตรัสอนุญาตแก่ภิกษุทั้งหลายว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาต
ให้ภิกษุอาพาธ เมื่อไม่ได้ผู้ให้นิสัย ไม่ต้องถือนิสัยอยู่.

ภิกษุพยาบาลไม่ต้องถือนิสัย


ครั้งนั้น ภิกษุผู้พยาบาลไข้นั้นได้มีความดำริว่า พระผู้มีพระภาคเจ้า
ทรงบัญญัติไว้ว่า ภิกษุจะไม่ถือนิสัยอยู่ไม่ได้ ก็เรามีหน้าที่ต้องถือนิสัย แต่
ภิกษุรูปนี้ยังอาพาธเราจะพึงปฏิบัติอย่างไรหนอแล ภิกษุทั้งหลายจึงกราบทูล
เรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสอนุญาตแก่ภิกษุทั้งหลาย
ว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลายเราอนุญาตให้ภิกษุผู้พยาบาลไข้ เมื่อไม่ได้ผู้ให้นิสัย
ถูกภิกษุอาพาธขอร้อง ไม่ต้องถือนิสัยอยู่.

ภิกษุอยู่วัดป่าไม่ต้องถือนิสัย


ก็โดยสมัยนั้นแล ภิกษุรูป 1 อยู่วัดป่า และเธอก็มีความผาสุกใน
เสนาสนะนั้น คราวนั้นเธอได้มีความดำริว่า พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงบัญญัติไว้
ว่า ภิกษุจะไม่ถือนิสัยอยู่ไม่ได้ ก็เรามีหน้าที่ต้องถือนิสัย แต่ยังอยู่วัดป่า และ
เราก็มีความผาสุกในเสนาสนะนี้ จะพึงปฏิบัติอย่างไรหนอแล ภิกษุทั้งหลาย
จึงกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสอนุญาตแก่
ภิกษุทั้งหลายว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลายเราอนุญาตให้ภิกษุผู้ถืออยู่ป่าเป็นวัตร
กำหนดการอยู่เป็นผาสุก เมื่อไม่ได้ผู้ให้นิสัย ไม่ต้องถือนิสัย ด้วยผูกใจว่า
เมื่อใดมีภิกษุผู้ให้นิสัยที่สมควรมาอยู่ จักอาศัยภิกษุนั้นอยู่.

อุปสมบทกรรม


สวดอุปสัมปทาเปกขะระบุโคตร


[139] ก็โดยสมัยนั้นแล ท่านพระมหากัสสปมีอุปสัมปทาเปกขะ และ
ท่านส่งทูตไปในสำนักท่านพระอานนท์ว่า ท่านอานนท์จงมาสวดอุปสัมปทา-
เปกขะนี้ ท่านพระอานนท์ตอบไปอย่างนี้ว่า เกล้ากระผมไม่สามารถจะระบุนาม
ของพระเถระได้ เพราะพระเถระเป็นที่เคารพของเกล้ากระผม ภิกษุทั้งหลาย
จึงกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสอนุญาตแก่
ภิกษุทั้งหลายว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลายเราอนุญาตให้สวดระบุโคตรได้.

อุปสมบทคู่


[140] ก็โดยสมัยนั้นแล ท่านพระมหากัสสปมีอุปสัมปทาเปกขะอยู่
2 คน เธอทั้งสองแก่งแย่งกันว่า เราจักอุปสมบทก่อน เราจักอุปสมบทก่อน