เมนู

อรรถกถาปัณฑกวัตถุ


สองบทว่า ทหเร ทหเร ได้แก่ หนุ่ม ๆ.
บทว่า โมลิคลฺเล ได้แก่ ผู้มีร่างกายอวบ
สองบทว่า หตฺถิภณฺเฑ อสฺสภณฺเฑ ได้แก่ คนเลี้ยงช้างและคน
เลี้ยงม้า.
ในคำว่า ปณฺฑโก ภิกฺขเว เป็นต้นนี้ มีวินิจฉัยว่า บัณเฑาะก์มี
5 ชนิด คือ อาสิตตาบัณเฑาะก์ 1 อุสุยยบัณเฑาะก์ 1 โอปักกมิยบัณเฑาะก์ 1
ปักขบัณเฑาะก์ 1 นปุงสกับบัณเฑาะก์ 1.
ในบัณเฑาะก์ 5 ชนิดนั้น บัณเฑาะก์ใดเอาปากอมองคชาตของชาย
เหล่าอื่น ถูกน้ำอสุจิรดเอาแล้ว ความเร่าร้อนจึงสงบไป บัณเฑาะก์นี้ ชื่อ
อาสิตตบัณเฑาะก์.
ฝ่ายบัณเฑาะก์ใดเห็นอัชฌาจารของชนเหล่าอื่น เมื่อความริษยาเกิด
ขึ้นแล้ว ความเร่าร้อนจึงสงบไป บัณเฑาะก์นี้ ชื่ออุสุยยบัณเฑาะก์.
บัณเฑาะก์ใดมีอวัยวะดังพืชทั้งหลาย ถูกนำไปปราศแล้วคือ ถูกเขา
ตอนเสียแล้ว ด้วยความพยายาม1 บัณเฑาะก์นี้ ชื่อโอปักกมิยบัณเฑาะก์.
ส่วนบางคนข้างแรมเป็นบัณเฑาะก์ ด้วยอานุภาพแห่งอกุศลวิบาก แต่
ข้างขึ้น ความเร่าร้อนของเขาย่อมสงบไป นี้ชี่อว่า ปักขบัณเฑาะก์.

1. ทางสันสฤต อุปกฺรม (อุปกฺกม) หมายความว่า จิกิตฺสา (ติกิจฺฉา) ก็ได้ดังนั้น อุปกฺกม
ในที่นี้จึงน่าจะหมายความไปทางวิธีหมอ เช่นการเยียวยาผำตัดเป็นต้น.

ส่วนบัณเฑาะก์ใด เกิดไม่มีเพศ ไม่มีภาวรูป ในปฏิสนธิทีเดียว คือ
ไม่ปรากฏว่าชายหรือหญิงมาแต่กำเนิด บัณเฑาะก์นี้ ชื่อนปุงสกับบัณเฑาะก์.
ในอรรถกถาชื่อกุรุนทีแก้ว่า ในบัณเฑาะก์ 5 ชนิดนั้น อาสิตตบัณ-
เฑาะก์ และอุสุยยบัณเฑาะก์ ไม่ห้ามบรรพชา, 3 ชนิดนอกนี้ห้าม แม้ใน
บัณเฑาะก์ 3 ชนิดนั้น สำหรับปักขบัณเฑาะก์ ห้ามบรรพชาแก่เขาเฉพาะปักข์
ที่เป็นบัณเฑาะก์เท่านั้น. ก็ในบัณเฑาะก์ 3 ชนิดนี้ บัณเฑาะก์ใดทรงห้าม
บรรพชา พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงหลายเอาบัณเฑาะก์นั้น ตรัสคำนี้ ว่า อนุป-
สมฺปนฺโน นาเสตพฺโพ. บัณเฑาะก์แม้นั้น ภิกษุพึงให้ฉิบหายด้วยลิงคนา-
สนาทีเดียว. เบื้องหน้าแต่นี้ แม้ในคำที่กล่าวว่า พึงให้ฉิบหาย ก็มีนัยนี้
เหมือนกัน.

อรรกถาปัณฑกวัตถุ จบ

เรื่องห้ามคนลักเพศและคนเข้ารีตมิให้อุปสมบท


[126] ก็โดยสมัยนั้นแล บุตรของตระกูลเก่าแก่คนหนึ่ง เป็นสุขุมาล-
ชาติ มีหมู่ญาติที่รู้จักกันในตระกูลหมดสิ้นไป ครั้งนั้น เขาได้มีความดำริว่า
เราเป็นผู้ดี ไม่สามารถจะหาโภคทรัพย์ที่ยังหาไม่ได้ หรือไม่สามารถจะทำ
โภคทรัพย์ที่หาได้แล้วให้เจริญงอกงาม ด้วยวิธีอะไรหนอ เราจึงจะอยู่เป็นสุข
และไม่ต้องลำบาก แล้วติดได้ในทันทีนั้นว่า พวกสมณะเชื้อสายพระศากยบุตร
เหล่านี้แลมีปรกติเป็นสุข มีความประพฤติเรียบร้อย ฉันอาหารที่ดี นอนใน
ห้องนอนอันมิดชิด ถ้ากระไร เราพึงจัดแจงบาตรจีวร โกนผมและหนวด
ครองผ้าย้อมฝาดเสียเองแล้วไปอารามอยู่ร่วมกับภิกษุทั้งหลาย ต่อมา เขาได้
จัดแจงบาตรจีวร โกนผมและหนวด ครองผ้าย้อมฝาดเอง แล้วไปอาราม
กราบไหว้ภิกษุทั้งหลาย.
ภิกษุทั้งหลายถามว่า คุณมีพรรษาได้เท่าไร.
เขาย้อนถามว่า ที่ชื่อว่ามีพรรษาได้เท่าไร นั่นอะไรกัน ขอรับ.
ภิกษุทั้งหลายถามว่า อาวุโส ใครเป็นพระอุปัชฌาย์ของคุณ.
เขาย้อนถามว่า ที่ชื่อว่าพระอุปัชฌาย์ นั่นอะไรกัน ขอรับ.
ภิกษุทั้งหลายได้แจ้งเรื่องนั้นต่อท่านพระอุบาลีว่า อาวุโสอุบาลี ขอ
นิมนต์ท่านสอบสวนบรรพชิตรูปนี้ .
ครั้นเขาถูกท่านพระอุบาลีสอบสวน จึงแจ้งเรื่องนั้นให้ทราบ ท่าน
พระอุบาลีได้แจ้งให้ภิกษุทั้งหลายทราบแล้ว ภิกษุทั้งหลายจึงกราบทูลเรื่องนั้น
แด่พระผู้มีพระภาคเจ้า.