เมนู

เรื่องตายเพราะอหิวาตกโรค


สามเณรบรรพชา


[112] ก็โดยสมัยนั้นแล ตระกูลหนึ่งได้ตายลง เพราะอหิวาตกโรค
ตระกูลนั้นเหลืออยู่แต่พ่อกับลูก คนทั้งสองนั้นบวชในสำนักภิกษุแล้ว เที่ยว
บิณฑบาตด้วยกัน ครั้น เมื่อเขาถวายภิกษาแก่ภิกษุผู้เป็นบิดา สามเณรน้อยก็
ได้วิ่งเข้าไปกล่าวว่าข้าแต่พ่อ ขอพ่อจงให้แก่ลูกบ้าง จงให้แก่ลูกบ้าง.
ประชาชนจึงเพ่งโทษ ติเตียน โพนทะนาว่า พระสมณะเชื้อสาย
ศากยบุตรเหล่านี้มิใช่ผู้พระพฤติพรหมจรรย์ สามเณรน้อยรูปนี้ชะรอยเถิด
แต่ภิกษุณี ภิกษุทั้งหลายได้ยินประชาชนพวกนั้นเพ่งโทษ ติเตียน โพนทะนา
อยู่ จึงกราบทูลเรื่องนั้น แด่พระผู้มีพระภาคเจ้า.
พระผู้มีพระภาคเจ้ารับสั่งกะภิกษุทั้งหลายว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เด็ก
ชายมีอายุหย่อน 15 ปี ภิกษุไม่พึงให้บวช รูปใดให้บวช ต้องอาบัติทุกกฏ.

เด็กชายตระกูลอุปัฏฐากบรรพชา


[113] ก็โดยสมัยนั้นแล ตระกูลอุปัฏฐากของท่านพระอานนท์มี
ศรัทธาเลื่อมใส ได้ตายลงเพราะอหิวาตกโรค เหลืออยู่แต่เด็กชายสองคน เด็ก
ชายทั้งสองเห็นภิกษุทั้งหลาย จึงวิ่งเข้าไปหาด้วยกิริยาที คุ้นเคยแต่ก่อนมา ภิกษุ
ทั้งหลายไล่ไปเสีย เด็กชายทั้งสองนั้นเมื่อถูกภิกษุทั้งหลายไล่ก็ร้องไห้ จึงท่าน
พระอานนท์ได้มีความดำริว่า พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงบัญญัติ มิให้บวชเด็กชาย
มีอายุหย่อน 15 ปี ก็เด็กชายทั้งสองคนนี้มีอายุหย่อน 15 ปี ด้วยวิธีอะไรหนอ
เด็กชายสองคนนี้จึงจะไม่เสื่อมเสีย ดังนี้ จึงกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มี
พระภาคเจ้า.
พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสถานว่า ดูก่อนอานนท์ เด็กชายสองคนนั้น
อาจไล่กาได้ไหม ?.
ท่านพระอานนท์กราบทูลว่า อาจ พระพุทธเจ้าข้า.