เมนู

สหายสองคนนี้คือ โกลิตะและ
อุปติสสะกำลังมา นั่นจักเป็นคู่สาวกของเรา
จักเป็นคู่อันเจริญชั้นเยี่ยมชองเรา.


เข้าเฝ้าทูลขอบรรพชาอุปสมบท


[72] ครั้งนั้น สารีบุตรโมคคัลลานะได้พากันเข้าไปเฝ้าพระผู้มี
พระภาคเจ้า ครั้นถึงแล้ว ได้ซบเศียรลงที่พระบาทของพระผู้มีพระภาคเจ้า แล้ว
ทูลขอบรรพชาอุปสมบทต่อพระผู้มีพระภาคเจ้าว่า ขอพวกข้าพระพุทธเจ้า พึง
ได้บรรพชา พึงได้อุปสมบทในสำนักพระผู้มีพระภาคเจ้า พระพุทธเจ้าข้า.
พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า พวกเธอจงเป็นภิกษุมาเถิด ดังนี้แล้วได้
ตรัสต่อไปว่า ธรรมอันเรากล่าวดีแล้ว พวกเธอจงประพฤติพรหมจรรย์เพื่อ
ทำที่สุดทุกข์โดยชอบเถิด.
พระวาจานั้นแล ได้เป็นอุปสมบทของท่านผู้มีอายุเหล่านี้.

เสียงติเตียน


[73] ก็โดยสมัยนั้นแล พวกกุลบุตรชาวมคธที่มีชื่อเสียง ๆ พากัน
ประพฤติพรหมจรรย์ในพระผู้มีพระภาคเจ้า ประชาชนพากันเพ่งโทษติเตียน
โพนทะนาว่า พระสมณโคดมปฏิบัติเพื่อให้ชายไม่มีบุตร พระสมณโคตม
ปฏิบัติเพื่อให้หญิงเป็นหม้าย พระสมณโคดมปฏิบัติเพื่อตัดสกุล บัดนี้ พระ
สมณโคตมให้ชฎิลพันรูปบวชแล้ว และให้ปริพาชกศิษย์ของท่านสญชัย 250
คนนี้บวชแล้ว และกุลบุตรชาวมคธที่มีชื่อเสียง ๆ พากันพระพฤติพรหมจรรย์
ในพระสมณโคดม อนึ่งประชาชนได้เห็นภิกษุทั้งหลายแล้วได้โจทย์ด้วยคาถาม
ว่าดังนี้:-

พระมหาสมณะเสด็จมาสู่คิริพพช1
นครของชาวมคธแล้ว ได้ทรงนำปริพาชก
พวกสญชัยทั้งปวงไปแล้ว บัดนี้ จักทรงนำ
ใครไปอีกเล่า.

[74] ภิกษุทั้งหลายได้ยินประชาชนพวกนั้นเพ่งโทษติเตียน โพน-
ทะนาอยู่จึงกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า.
พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เสียงนั้น จักอยู่ไม่ได้
นาน จักอยู่ได้เพียง 7 วันท่านั้น พ้น 7 วันก็จักหายไป ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย
ถ้าชนเหล่าใดกล่าวหาต่อพวกเธอด้วยคาถาม ว่าดังนี้:-
พระมหามณะเสด็จมาสู่คิริพพช
นครของชาวมคธแล้ว ได้ทรงนำปริพาชก
พวกสญชัยทั้งปวงไปแล้ว บัดนี้ จักทรงนำ
ใครไปอีกเล่า.

[75] พวกเธอจงกล่าวโต้ตอบต่อชนเหล่านั้น ด้วยคาถาม ว่าดังนี้:-
พระตถาคตทั้งหลายผู้แกล้วกล้ามาก
ย่อมทรงนำชนทั้งหลายไปด้วยพระสัทธรรม
เมื่อชนทั้งหลายอันพระองค์ทรงนำไปอยู่โดย
ธรรม ผู้เข้าใจอย่างนี้จะริษยาทำไม.

ก็โดยสมัยนั้นแล ประชาชนทั้งหลายได้เห็นภิกษุทั้งหลายแล้ว ย่อม
กล่าวหาด้วยคาถานี้ ว่าดังนี้:-
พระมหาสมณะเสด็จมาสู่คิริพพช
นครของชาวมคธแล้ว ได้ทรงนำปริพาชก


1. พระนครราชคฤห์.

พวกสญชัยทั้งปวงไปแล้ว บัดนี้ จักทรงนำ
ใครไปอีกเล่า.

ภิกษุทั้งหลายได้กล่าวโต้ตอบต่อประชาชนพวกนั้น ด้วยคาถานี้ ว่า
ดังนี้:-
พระตถาคตทั่งหลายผู้แกล้วกล้ามาก
ย่อมทรงนำชนทั้งหลายไปด้วยพระสัทธรรม
เมื่อชนทั้งหลายอันพระองค์ทรงนำไปอยู่โดย
ธรรม ผู้เข้าใจอย่างนี้จะริษยาทำไม.

[76] ประชาชนกล่าวอย่างนี้ว่า ได้ยินว่า พระสมณะเชื้อสายพระ-
ศากยบุตรทรงนำชนทั้งหลายไปโดยธรรม ไม่ทรงนำไปโดยอธรรม.
เสียงนั้นได้มีเพียง 7 วันเท่านั้น พ้น 7 วัน ก็หายไป.
พระสารีบุตรพระโมคคัลลานะบรรพชา จบ
จตุตถภาณวาร จบ


อรรถกถาสารีปุตตโมคคัลลานบรรพชา


บทว่า สาริปุตฺตโมคฺคลฺลานา ได้แก่ พระสารีบุตร 1 พระ-
โมคคัลลานะ 1 ท่านทั้ง 2 ได้ทำกติกากันไว้ว่า ผู้ใดพบอมตธรรมก่อน ผู้
นั้นจงบอกแก่อีกฝ่ายหนึ่ง.
ได้ยินว่าท่านทั้ง 2 นั้น ในเวลาเป็นคฤหัสถ์มีชื่อปรากฏอย่างนี้ว่า
อุปติสสะ โกลิตะ มีมาณพ 250 เป็นบริวารได้ไปดูมหรสพซึ่งมี ณ ยอดเขา.1

1. คิรคฺคสมชฺช มหรสพฉลองประจำปี ณ กรุงราชคฤห์, มหรสพยอดเขา.