เมนู

พระสารีบุตรและพระโมคคัลลานะบรรพชา


พระอัสสชิเถระ


[64] ก็โดยสมัยนั้นแล สญชัยปริพาชกอาศัยอยู่ในพระนครราชคฤห์
พร้อมด้วยปริพาชกบริษัทหมู่ใหญ่ จำนวน 250 คน ก็ครั้งนั้น พระสารีบุตร
พระโมคคัลลานะประพฤติพรหมจรรย์อยู่ในสำนักสญชัยปริพาชก ท่านทั้งสอง
ได้ทำกติกากันไว้ว่า ผู้ใดบรรลุอมตธรรมก่อน ผู้นั้นจงบอกแก่อีกคนหนึ่ง
ขณะนั้นเป็นเวลาเช้า ท่านพระอัสสชินุ่งอันตรวาสกแล้ว ถือบาตรจีวร เข้าไป
บิณฑบาตยังพระนครราชคฤห์ มีมรรยาทก้าวไป ถอยกลับ แลเหลียว คู้แขน
เหยียดแขน น่าเลื่อมใส มีนัยน์ตาทอดลง ถึงพร้อมด้วยอิริยาบถ สารีบุตร
ปริพาชก ได้เห็นท่านพระอัสสชิกำลังเที่ยวบิณฑบาตในพระนครราชคฤห์ มี
มรรยาทก้าวไป ถอยกลับ แลเหลียว คู้แขน เหยียดแขน น่าเลื่อมใส มี
นัยน์ตาทอดลง ถึงพร้อมด้วยอิริยาบถ ครั้นแล้วได้มีความดำริว่า บรรดา
พระอรหันต์ หรือท่านผู้ได้บรรลุพระอรหัตมรรคในโลก ภิกษุรูปนี้คงเป็นผู้
ใดผู้หนึ่งแน่ ถ้ากระไร เราพึงเข้าไปหาภิกษุรูปนี้ แล้วถามว่า ท่านบวช
เฉพาะใคร ใครเป็นศาลดาของท่าน หรือท่านชอบใจธรรมของใคร แล้วได้
ดำริต่อไปว่า ยังเป็นการไม่สมควรจะถามภิกษุรูปนี้ เพราะท่านกำลังเข้าละแวก
บ้านจนเที่ยวบิณฑบาต ผิฉะนั้นเราพึงติดตามภิกษุรูปนี้ไปข้างหลัง ๆ เพราะเป็น
ทางอันผู้มุ่งประโยชน์ทั้งหลายจะต้องสนใจ ครั้งนั้นท่านพระอัสสชิเทียวบิณฑ-
บาตในพระนครราชคฤห์ ถือบิณฑบาตกลับไป จึงสารีบุตรปริพาชกเข้าไปหา
ท่านพระอัสสชิ ถึงแล้วได้พูดปราศรัยกับท่านพระอัสสชิ ครั้นผ่านการพูด
ปราศรัยพอให้เป็นที่บันเทิง เป็นที่ระลึกถึงกันไปแล้ว ได้ยืนอยู่ ณ ที่ควรส่วน