เมนู

แก่แม่เจ้าผู้ใด แม่เจ้าผู้นั้นพึงเป็นผู้นิ่ง ไม่ชอบแก่แม่เจ้าผู้ใด แม่เจ้า
ผู้นั้นพึงพูด.
ข้าพเจ้ากล่าวความนี้เป็นครั้งที่สอง . . .
ข้าพเจ้ากล่าวความนี้เป็นครั้งที่สาม. . .
ภิกษุณีมีชื่อนี้ อันสงฆ์สวดสมนุภาสแล้ว เพื่อสละวัตถุนั้น
ชอบแก่สงฆ์ เหตุนั้นจึงนิ่ง ข้าพเจ้าทรงความนี้ไว้ด้วยอย่างนี้.

[73] จบญัตติ ต้องอาบัติทุกกฏ จบกรรมวาจาสองครั้ง ต้องอาบัติ
ถุลลัจจัย จบกรรมวาจาครั้งสุด ต้องอาบัติสังฆาทิเสส เมื่อต้องอาบัติสังฆา-
ทิเสส อาบัติทุกกฏเพราะญัตติ อาบัติถุลลัจจัยเพราะกรรมวาจาสองครั้ง ย่อม
ระงับ.
[74] บทว่า แม้นี้ พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสเทียบเคียงภิกษุณีรูป
ก่อน.
บทว่า มีอันให้ต้องอาบัติในเมื่อสวดสมนุภาสครบสามจบ คือ
ต้องอาบัติเพราะสวดสมนุภาสจบครั้งที่สาม ไม่ใช่ต้องพร้อมกับการล่วงวัตถุ.
ที่ชื่อว่า นิสสารณียะ ได้แก่ ถูกขับออกจากหมู่.
บทว่า สังฆาทิเสส ความว่า สงฆ์เท่านั้นให้มานัต . . . แม้เพราะ
เหตุนั้น จึงตรัสว่า สังฆาทิเสส.

บทภาชนีย์
ติกะสังฆาทิเสส


[75] กรรมเป็นธรรม ภิกษุณีสำคัญว่า กรรมเป็นธรรม ไม่สละ
ต้องอาบัติสังฆาทิเสส.

กรรมเป็นธรรม ภิกษุณีสงสัย ไม่สละ ต้องอาบัติสังฆาทิเสส.
กรรมเป็นธรรม ภิกษุณีสำคัญว่า กรรมไม่เป็นธรรม ไม่สละ ต้อง
อาบัติสังฆาทิเสส.

ติกะทุกกฏ


กรรมไม่เป็นธรรม ภิกษุณีสำคัญว่ากรรมเป็นธรรม ต้องอาบัติทุกกฏ.
กรรมไม่เป็นธรรม ภิกษุณีสงสัย ต้องอาบัติทุกกฏ.
กรรมไม่เป็นธรรม ภิกษุณีสำคัญว่า กรรมไม่เป็นธรรม ต้องอาบัติ
ทุกกฏ.

อนาปัตติวาร


[76] ยังไม่ถูกสวดสมนุภาส 1 ยอมสละ 1 วิกลจริต 1 อาทิกัม-
มิกา 1 ไม่ต้องอาบัติแล.
สังฆาทิเสสสิกขาบทที่ 8 จบ

อรรถกถาสังฆาทิเสสสิกขาบทที่ 8


วินิจฉัย ในสิกขาบทที่ 8 พึงทราบดังนี้ :-
สองบทว่า กิสฺมิญฺจิเทว อธิกรเณ ได้แก่ ในบรรดาอธิกรณ์ 4
อธิกรณ์อย่างใดอย่างหนึ่ง. แต่ในบทภาชนะ เพื่อทรงแสดงการจำแนกอธิกรณ์
อย่างเดียว พระผู้มีพระภาคเจ้าจึงตรัสคำเป็นต้นว่า ที่ชื่อว่า อธิกรณ์ ได้แก่
อธิกรณ์ 4 ดังนี้ . คำที่เหลือพร้อมทั้งสมุฏฐานเป็นต้น ตื้นทั้งนั้นแล.
อรรถกถาสังฏาทิเสสสิกขาบทที่ 8 จบ