เมนู

สิกขาบทวิภังค์


[2] บทว่า อนึ่ง. . .ใด ความว่า ผู้ใด คือผู้เช่นใด มีการงาน
อย่างใด มีชาติอย่างใด มีอารมณ์อย่างใด เป็นเถระก็ตาม เป็นนวกะก็ตาม
เป็นมัชฌิมะก็ตาม นี้พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า อนึ่ง. . .ใด.
บทว่า ภิกษุณี ความว่า ที่ชื่อว่า ภิกษุณี เพราะอรรถว่าเป็นผู้ขอ,
ชื่อว่า ภิกษุณี เพราะอรรถว่า ประพฤติภิกขาจริยวัตร, ชื่อว่า ภิกษุณี เพราะ
อรรถว่าทรงผืนผ้าที่ถูกทำลายแล้ว, ชื่อว่า ภิกษุณี โดยสมญา, ชื่อว่า ภิกษุณี
โดยปฏิญญา, ชื่อว่า ภิกษุณี เพราะอรรถว่าเป็นเอหิภิกษุณี, ชื่อว่า ภิกษุณี เพราะ
อรรถว่าเป็นผู้อุปสมบทแล้วด้วยไตรสรณคมน์, ชื่อว่า ภิกษุณี เพราะอรรถว่า
เป็นผู้เจริญ, ชื่อว่า ภิกษุณี เพราะอรรถว่าเป็นพระเสขะ, ชื่อว่า ภิกษุณี เพราะ
อรรถว่าเป็นพระอเสขะ,ชื่อว่าภิกษุณี เพราะอรรถว่าเป็นผู้อันสงฆ์สองฝ่ายพร้อม
เพรียงกันอุปสมบทให้ด้วยญัตติจตุตถกรรม อันไม่กำเริบควรแก่ฐานะ, บรรดา
ภิกษุณีเหล่านั้น ภิกษุณีที่สงฆ์สองฝ่ายพร้อมเพรียงกันอุปสมบทให้ด้วยญัตติ-
จตุตถกรรม อันไม่กำเริบ ควรแก่ฐานะ นี้ชื่อว่า ภิกษุณี ที่ทรงประสงค์
ในอรรถนี้ .
ที่ชื่อว่า มีความกำหนัด ได้แก่หญิงหรือชายมีความกำหนัดมาก มี
ความเพ่งเล็ง มีจิตปฏิพัทธ์.
ที่ชื่อว่า บุรุษบุคคล ได้แก่ มนุษย์ผู้ชาย ไม่ใช่ยักษ์ผู้ชาย ไม่ใช่
เปรตผู้ชาย ไม่ใช่สัตว์ดิรัจฉานตัวผู้ เป็นคนรู้ความ เป็นผู้สามารถ เพื่อถึง
ความเคล้าคลึงด้วยกาย.
บทว่า ใต้รากขวัญลงไป คือ เบื้องต่ำแห่งรากขวัญลงไป.
บทว่า เหนือเข่าขึ้นมา คือ เบื้องบนแห่งมณฑลเข่าขึ้นมา.

ที่ชื่อว่า ลูบ คือ เพียงลูบไป.
ที่ชื่อว่า คลำ คือ จับเบา ๆ ไปข้างโน้นข้างนี้
ที่ชื่อว่า จับ คือ เพียงจับตัว.
ที่ชื่อว่า ต้อง คือ เพียงถูกต้องตัว.
บทว่า ยินดี . . . การบีบเคล้นก็ดี คือยินดีการรับต้องอวัยวะแล้ว
บีบเคล้น
บทว่า แม้ภิกษุณีนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้าเทียบเตียงภิกษุณีรูปก่อน.

อุปมาด้วยบุรุษถูกตัดศีรษะ


คำว่า เป็นปาราชิก อธิบายว่า บุรุษถูกตัดศีรษะแล้วไม่อาจมีสรีระ
คุมกันนั้นเป็นอยู่ ชื่อแม้ฉันใด ภิกษุณีก็ฉันนั้นเหมือนกัน มีความกำหนัด
ยินดี การลูบก็ดี คลำก็ดี จับก็ดี ต้องก็ดี บีบเคล้นก็ดี ของบุรุษบุคคลผู้
กำหนัด ได้รากขวัญลงไป เหนือเข่าขึ้นมา ย่อมไม่เป็นสมณะ ไม่เป็นธิดา
ของพระศากยบุตร เพราะเหตุนั้นจึงตรัสว่า เป็นปาราชิก.
บทว่า หาสังวาสมิได้ ความว่า ที่ชื่อว่าสังวาส ได้แก่กรรมที่พึง
กระทำร่วมกัน อุเทศที่พึงสวดร่วมกัน ความเป็นผู้มีสิกขาเสมอกัน นี้ชื่อว่า
สังวาส สังวาสนั้นไม่มีร่วมกับภิกษุณีนั้น เพราะเหตุนั้นจึงตรัสว่า หาสังวาส
มิได้.

บทภาชนีย์


[3] เมื่อทั้งสองฝ่ายมีความกำหนัด ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งถูกกายด้วยกาย
ใต้รากขวัญลงไป เหนือเข่าขึ้นมา ภิกษุณีต้องอาบัติปาราชิก ถูกของที่เนื่อง
ด้วยกาย ด้วยกาย ต้องอาบัติถุลลัจจัย ถูกกายด้วยของที่เนื่องด้วยกาย ต้อง