เมนู

ไม่ต้องอาบัติ


ขอโอกาสแล้ว ภิกษุณีสำคัญว่าขอโอกาสแล้ว ไม่ต้องอาบัติ.

อนาปัตติวาร


[479] ยังภิกษุให้ทำโอกาสแล้วถาม 1 ยังภิกษุให้ทำโอกาสไม่เจาะ-
จงแล้วถามปัญหาในปิฏกหนึ่ง 1 วิกลจริต 1 อาทิกัมมิกา 1 ไม่ต้องอาบัติแล.
ฉัตตุปาหนวรรค สิกขาบทที่ 12 จบ

อรรถกถาฉัตตวรรค สิกขาบทที่ 12


วินิจฉัยในสิกขาบทที่ 12 พึงทราบดังนี้:-
บทว่า อโนกาสกตํ ได้แก่ ผู้ที่ตนยังมิได้ทำการขอโอกาสอย่างนี้ว่า
ดิฉันจักถามในสถานที่โน้น. ด้วยเหตุนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าจึงตรัสว่า บทว่า
ผู้ที่ตนยังมิได้ขอโอกาส คือ ตนยังไม่ได้บอกกล่าว.
บทว่า อนุทฺทิสฺส มีความว่า ไม่กำหนดอย่างนี้ว่า ดิฉันจักถามใน
ฐานะชื่อโน้น กล่าวอย่างนี้อย่างเดียวว่า ดิฉันจะถามข้อที่ควรถาม ซึ่งมีอยู่
พระผู้เป็นเจ้า ! คำที่เหลือ ง่ายทั้งนั้น.
สิกขาบทนี้ มีสมุฏฐานดุจปทโสธรรมสิกขาบท เกิดขึ้นทางวาจา 1
ทางวาจากับจิต 1 เป็นทั้งกิริยาทั้งอกิริยา โนสัญญาวิโมกข์ อจิตตกะ ปัณ-
ณัตติวัชชะ วจีกรรม มีจิต 3 มีเวทนา 3 แล.

อรรถกถาฉัตตวรรค สิกขาบทที่ 12 จบ

ฉัตตุปาหนวรรค สิกขาบทที่ 13


เรื่องภิกษุณีรูปหนึ่ง


[480] โดยสมัยนั้น พระผู้มีพระภาคพุทธเจ้าประทับ อยู่ ณ พระ-
เชตวัน อารามของอนาถบิณฑิกคหบดี เขตพระนครสาวัตถี ครั้งนั้น ภิกษุณี
รูปหนึ่งไม่มีผ้ารัดถัน เข้าไปเพื่อบิณฑะในหมู่บ้าน ลมบ้าหมูพัดเวิกผ้าสังฆาฏิ
ขึ้นที่ถนนนั้น คนทั้งหลายได้ส่งเสียงว่าถันและท้องของแม่เจ้าสวย ภิกษุณี
รูปนั้นถูกคนทั้งหลายเยาะเย้ยได้เป็นผู้เก้อเขิน ครั้นนางไปถึงสำนักแล้ว ได้เล่า
เรื่องนั้นให้ภิกษุณีทั้งหลายฟัง.
บรรดาภิกษุณีที่เป็นผู้มักน้อย. . . ต่างก็เพ่งโทษ ติเตียน โพนทะนา
ว่า ไฉนภิกษุณีจึงไม่มีผ้ารัดถันเข้าบ้านเล่า. . .

ทรงสอบถาม


พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงสอบถามภิกษุทั้งหลายว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย
ข่าวว่า ภิกษุณีไม่มีผ้ารัดถันเข้าบ้าน จริงหรือ.
ภิกษุทั้งหลายกราบทูลว่า จริง พระพุทธเจ้าข้า.

ทรงติเตียนแล้วบัญญัติสิกขาบท


พระผู้มีพระภาคพุทธเจ้าทรงติเตียนว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ไฉน
ภิกษุณีจึงไม่มีผ้ารัดถันเข้าบ้านเล่า การกระทำของนางนั่น ไม่เป็นไปเพื่อ
ความเลื่อมใสของชุมชนที่ยังไม่เลื่อมใส . . .
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็แลภิกษุณีทั้งหลายจงยกสิกขาบทนี้ขึ้นแสดง
อย่างนี้ ว่าดังนี้;-