เมนู

เรา เมื่อได้เช่นนี้ เราจึงจะให้เธออุปสมบท แล้วไม่ให้นางอุปสมบท ไม่ขวน-
ขวายเพื่อให้นางอุปสมบทเล่า การกระทำของนางนั่น ไม่เป็นไปเพื่อความ
เลื่อมใสของชุมชนที่ยังไม่เลื่อมใส. . .
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็แลภิกษุณีทั้งหลายจงยกสิกขาบทนี้ขึ้นแสดง
อย่างนี้ ว่าดังนี้. . .

พระบัญญัติ


132. 7. อนึ่ง ภิกษุณีใด กล่าวกะสิกขมานาว่า ดูก่อน
แม่เจ้าถ้าเธอจักให้จีวรแก่เรา เมื่อได้เช่นนี้ เราจึงจะให้เธออุปสมบท
ดังนี้แล้ว นางไม่มีอันตรายในภายหลัง ไม่ให้อุปสมบท ไม่ทำการ
ขวนขวายเพื่อให้อุปสมบท เป็นปาจิตตีย์.

เรื่องภิกษุณีถุลลนันทา จบ

สิกขาบทวิภังค์


[424] บทว่า อนึ่ง. . .ใด ความว่า ผู้ใด คือ ผู้เช่นใด. . .
บทว่า ภิกษุณี ความว่า ที่ชื่อว่า ภิกษุณี เพราะอรรถว่าเป็นผู้ขอ. . .
นี้ชื่อว่า ภิกษุณี ที่ทรงประสงค์ในอรรถนี้.
ที่ชื่อว่า สิกขมานา ได้แก่ สตรีผู้ได้ศึกษาสิกขาในธรรม 6 ประการ
ตลอด 2 ปีแล้ว.
คำว่า ดูก่อนแม่เจ้า ถ้าเธอจักให้จีวรแก่เรา เมื่อได้เช่นนี้
เราจึงจะให้เธออุปสมบท
ความว่า เมื่อเราได้จีวรแล้ว เราจึงจะให้เธอ
อุปสมบท.

คำว่า นางไม่มีอันตรายในภายหลัง คือ ในเมื่ออันตรายไม่มี.
บทว่า ไม่ให้อุปสมบท คือ ไม่บวชให้ด้วยตนเอง.
บทว่า ไม่ทำการขวนขวายเพื่อให้อุปสมบท คือ ไม่มอบหมาย
ภิกษุณีรูปอื่นจัดการแทน.
พอทอดธุระว่า จักไม่ให้อุปสมบท จักไม่ขวนขวายเพื่อให้อุปสมบท
ดังนี้ ต้องอาบัติปาจิตตีย์.

อนาปัตติวาร


[425] ในเมื่ออันตรายมี 1 แสวงหาแล้วไม่ได้ 1 อาพาธ 1 มี
เหตุขัดข้อง 1 วิกลจริต 1 อาทิกัมมิกา 1 ไม่ต้องอาบัติแล.
กุมารีภูตวรรค สิกขาบทที่ 7 จบ

อรรถกถากุมารีภูตวรรค สิกขาบทที่ 7


คำทั้งหมดในสิกขาบทที่ 7 ตื้นทั้งนั้น. สิกขาบทนี้ มีการทอดธุระ
เป็นสมุฏฐาน เป็นกิริยา สัญญาวิโมกข์ สจิตตกะ โลกวัชชะ กายกรรม วจี
กรรม อกุศลจิต เป็นทุกขเวทนา แล.
อรรถกถากุมารีภูตวรรค สิกขาบทที่ 7 จบ