เมนู

กุมารีภูตวรรค สิกขาบทที่ 5


เรื่องภิกษุณีหลายรูป


[416] โดยสมัยนั้น พระผู้มีพระภาคพุทธเจ้าประทับอยู่ ณ พระ-
เชตวัน อารามของอนาถบิณฑิกคหบดี เขตพระนครสาวัตถี ครั้งนั้น ภิกษุณี
มีพรรษาครบ 12 แล้ว แต่สงฆ์ยังมิได้สมมติ ได้พากันบวชกุลธิดา ภิกษุณี
อุปัชฌายะเหล่านั้น เป็นคนเขลา ไม่ฉลาด ไม่รู้สิ่งที่ควรหรือไม่ควร แม้
สัทธิวิหารินี ก็เป็นคนเขลา ไม่ฉลาด ไม่รู้สิ่งที่ควรหรือไม่ควร.
บรรดาภิกษุณีที่เป็นผู้มักน้อย. . . ต่างก็เพ่งโทษ ติเตียน โพนทะนาว่า
ไฉนพวกภิกษุณีมีพรรษาครบ 12 แล้ว แต่สงฆ์ยังมิได้สมมติ จึงได้พากัน
บวชกุลธิดาเล่า. . .

ทรงสอบถาม


พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงสอบถามภิกษุทั้งหลายว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย
ข่าวว่า พวกภิกษุณีมีพรรษาครบ 12 แล้ว แต่สงฆ์ยังมิได้สมมติ ได้พากัน
บวชกุลธิดา จริงหรือ.
ภิกษุทั้งหลายกราบทูลว่า จริง พระพุทธเจ้าข้า.

ทรงติเตียนแล้วบัญญัติสิกขาบท


พระผู้มีพระภาคพุทธเจ้าทรงติเตียนว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ไฉน
พวกภิกษุณีมีพรรษาครบ 12 แล้ว แต่สงฆ์ยังมิได้สมมติ จึงได้พากันบวช
กุลธิดาเล่า การกระทำของพวกนางนั่น ไม่เป็นไปเพื่อความเลื่อมใสของชุมชน
ที่ยังไม่เลื่อมใส. . . ครั้นแล้ว ทรงกระทำธรรมีกถารับสั่งกะภิกษุทั้งหลายว่า

ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตให้สงฆ์สมมติการอุปสมบทแก่ภิกษุณี
ผู้มีพรรษาครบ 12 แล้ว.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็แลวิธีการสมมติให้อุปสมบทนั้นอันสงฆ์พึงให้
อย่างนี้:-

วิธีให้สมมติการให้อุปสมบทแก่ภิกษุณีผู้มีพรรษาครบ 12


อันภิกษุณีผู้มีพรรษาครบ 12 แล้วนั้น พึงเข้าไปหาสงฆ์ ห่มผ้า
อุตราสงค์เฉวียงบ่า กราบเท้าภิกษุณีผู้แก่พรรษากว่าแล้ว นั่งกระโหย่งประคอง
อัญชลี กล่าวอย่างนี้ว่า.
แม่เจ้า ดิฉันชื่อนี้ มีพรรษาครบ 12 แล้ว ขอสมมติการให้อุปสมบท
ต่อสงฆ์.
พึงขอแม้ครั้งที่สอง พึงขอแม้ครั้งที่สาม.
ภิกษุณีนั้นอันสงฆ์พึงกำหนดว่า ภิกษุณีนี้เป็นคนฉลาด มีความละอาย
ถ้าเธอเป็นคนเขลา และไม่มีความละอาย ก็ไม่ควรให้ ถ้าเป็นคนเขลา แต่มี
ความละอาย ก็ไม่ควรให้ ถ้าเป็นคนฉลาด แต่ไม่มีความละอาย ก็ไม่ควร
ให้ ถ้าเป็นคนฉลาดด้วย มีความละอายด้วย จึงควรให้.
ครั้นแล้ว สงฆ์พึงให้สมมติการให้อุปสมบทนั้นอย่างนี้:-
ภิกษุณีผู้ฉลาด ผู้สามารถ พึงประกาศให้สงฆ์ทราบด้วยญัตติทุติย-
วาจา ว่าดังนี้:-

กรรมวาจา


แม่เจ้า ขอสงฆ์จงฟังข้าพเจ้า ภิกษุณีชื่อนี้ผู้นี้ มีพรรษา
ครบ 12 แล้ว ขอสมมติการให้อุปสมบทต่อสงฆ์ ถ้าความพร้อม
พรั่งของสงฆ์ถึงที่แล้ว สงฆ์พึงให้สมมติการให้อุปสมบทแก่ภิกษุณี
ชื่อนี้ ผู้มีพรรษาครบ 12 แล้ว นี้เป็นญัตติ.