เมนู

ทรงติเตียนแล้วบัญญัติสิกขาบท


พระผู้มีพระภาคพุทธเจ้าทรงติเตียนว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ไฉนพวก
ภิกษุณีจึงได้บวชสามเณรีผู้มีอายุครบ 20 ปี ผู้ได้ศึกษาสิกขาในธรรม 6 ประ-
การ ตลอด 2 ปีแล้ว แต่สงฆ์ยังมิได้สมมติเล่า การกระทำของพวกนางนั่น ไม่
เป็นไปเพื่อความเลื่อมใสของชุมชนที่ยังไม่เลื่อมใส. . . ครั้นแล้ว ทรงกระทำ
ธรรมีกถารับสั่งกะภิกษุทั้งหลายว่า.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตให้สงฆ์สมมติการอุปสมบทแก่สามเณรี
ผู้มีอายุครบ 20 ปี ผู้ได้ศึกษาสิกขาในธรรม 6 ประการ ตลอด 2 ปีแล้ว.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็แลวิธีการให้สมมติการอุปสมบทนั้น อันสงฆ์
พึงให้อย่างนี้:-

วิธีการให้สมมติอุปสมบท


อันสามเณรีผู้มีอายุครบ 20 ปี ผู้ได้ศึกษาสิกขาในธรรม 6 ประการ
ตลอด 2 ปีแล้วนั้น พึงเข้าไปหาสงฆ์ ห่มผ้าอุตราสงค์ เฉวียงบ่า กราบเท้า
ภิกษุณีทั้งหลายแล้ว นั่งกระโหย่งประคองอัญชลี กล่าวอย่างนี้ว่า.
แม่เจ้า ดิฉันชื่อนี้ เป็นสามเณรีของแม่เจ้าชื่อนี้ มีอายุครบ 20 ปี
ได้ศึกษาสิกขาในธรรม 6 ประการ ตลอด 2 ปีแล้ว ขอสมมติการอุปสมบท
ต่อสงฆ์.
พึงขอแม้ครั้งที่สอง พึงขอแม้ครั้งที่สาม.
ภิกษุณีผู้ฉลาด ผู้สามารถ พึงประกาศให้สงฆ์ทราบด้วยญัตติทุติย-
กรรมวาจา ว่าดังนี้:-

กรรมวาจา


แม่เจ้า ขอสงฆ์จงฟังข้าพเจ้า สามเณรชื่อนี้ผู้นี้ ของแม่เจ้า
ชื่อนี้ มีอายุครบ 20 ปี ได้ศึกษาสิกขาในธรรม 6 ประการ ตลอด
2 ปีแล้ว ขอสมมติการอุปสมบทต่อสงฆ์ ถ้าความพร้อมพรั่งของ
สงฆ์ถึงที่แล้ว สงฆ์พึงไห้สมมติการอุปลมบทแก่สามเณรีชื่อนี้ ผู้มี
อายุครบ 20 ปี ผู้ได้ศึกษาสิกขาในธรรม 6 ประการ ตลอด 2 ปี
แล้ว นี้เป็นญัตติ.
แม่เจ้า ขอสงฆ์จงฟังข้าพเจ้า สามเณรีชื่อนี้ผู้นี้ ของแม่เจ้า
ชื่อนี้มีอายุครบ 2 ปี ได้ศึกษาสิกขาในธรรม 6 ประการ ตลอด 2
ปีแล้ว ขอสมมติการอุปสมบทต่อสงฆ์ สงฆ์สมมติการอุปสมบทแก่
สามเณรีชื่อนี้ผู้มีอายุครบ 20 ปี ผู้ได้ศึกษาสิกขาในธรรม 6 ประ-
การ ตลอด 2 ปีแล้ว การให้สมมติการอุปสมบทแก่สามเณรีชื่อนี้ มี
อายุครบ 20 ปี ผู้ได้ศึกษาสิกขาในธรรม 6 ประการ ตลอด 2 ปี
แล้ว ชอบแก่แม่เจ้าผู้ใด แม่เจ้าผู้นั้นพึงเป็นผู้นิ่ง ไม่ชอบแก่แม่เจ้า
ผู้ใด แม่เจ้าผู้นั้นพึงพูด.
สมมติการอุปสมบท อันสงฆ์ให้แล้วแก่สามเณรีชื่อนี้ ผู้มี
อายุครบ 20 ปี ผู้ได้ศึกษาสิกขาในธรรม 6 ประการ ตลอด 2 ปี
แล้ว ชอบแก่สงฆ์ เหตุนั้นจึงนิ่ง ข้าพเจ้าทรงความนี้ไว้ด้วยอย่างนี้.

พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงติเตียนภิกษุณีเหล่านั้น โดยอเนกปริยายดังนี้
แล้ว ตรัสโทษแห่งความเป็นคนเลี้ยงยาก. . .
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็แลภิกษุณีทั้งหลายจงยกสิกขาบทนี้ ขึ้นแสดง
อย่างนี้ ว่าดังนี้:-