เมนู

สิกขาบทวิภังค์


[396] บทว่า อนึ่ง. . .ใด ความว่า ผู้ใด คือ ผู้เช่นใด . . .
บทว่า ภิกษุณี ความว่า ที่ชื่อว่า ภิกษุณี เพราะอรรถว่าเป็น
ผู้ขอ. . . นี้ชื่อว่า ภิกษุณี ที่ทรงประสงค์ในอรรถนี้.
บทว่า ผู้ให้บวช คือ ผู้ให้อุปสมบท.
ที่ชื่อว่า ปวัตตินี ได้แก่ ภิกษุณีที่เขาเรียกกัน ว่าอุปัชฌาย์.
บทว่า สิ้นสองฝน คือ ตลอด 2 ปี.
บทว่า ไม่ติดตาม คือ ไม่อุปัฏฐาก.
พอทอดธุระว่า จักไม่ติดตามตลอด 2 ปี ต้องอาบัติปาจิตตีย์.

อนาปัตติวาร


[397] อุปัชฌาย์เป็นคนเขลา หรือ เป็นคนไม่ละอาย 1 อาพาธ 1
มีเหตุขัดข้อง 1 วิกลจริต 1 อาทิกัมมิกา 1 ไม่ต้องอาบัติแล.
คัพภินีวรรค สิกขาบทที่ 9 จบ

อรรถกถาคัพภินีวรรค สิกขาบทที่ 9


วินิจฉัยในสิกขาบทที่ 9 พึงทราบดังนี้ :-
บทว่า น อุปฏฺฐเหยฺย มีความว่า ไม่บำรุงด้วยกิจที่ควรทำนั้น ๆ
อย่างนี้ คือ ด้วยจุณ ด้วยดินเหนียว ด้วยไม้สีฟัน ด้วยน้ำล้างหน้า. คำที่
เหลือ ตื้นทั้งนั้น.
สิกขาบทนี้ มีสมุฏฐานดุจปฐมปาราชิกสิกขาบท เป็นอกิริยา สัญญา-
วิโมกข์ สจิตตกะ โลกวัชชะ กายกรรม อกุศลกรรม เป็นทุกขเวทนา แล.
อรรถกถาคัพภินีวรรค สิกขาบทที่ 9 จบ

คัพภินีวรรค สิกขาบทที่ 10


เรื่องภิกษุณีถุลลนันทา


[398] โดยสมัยนั้น พระผู้มีพระภาคพุทธเจ้าประทับ อยู่ ณ พระ-
เชตวัน อารามของอนาถบิณฑิกคหบดี เขตพระนครสาวัตถี ครั้งนั้น ภิกษุณี
ถุลลนันทาบวชสหชีวินีไว้แล้ว ไม่พาไปด้วย ไม่ให้ผู้อื่นพาไปด้วย นายได้
จับตัวไป.
บรรดาภิกษุณีที่เป็นผู้มักน้อย. . .ต่างก็เพ่งโทษ ติเตียน โพนทะนา
ว่า ไฉนแม่เจ้าถุลลนันทาบวชสหชีวินีไว้แล้ว จึงไม่พาไปด้วย ไม่ให้ผู้อื่นพา
ไปด้วยเล่า นายได้จับตัวไป ถ้าภิกษุณีนี้ พึงไปด้วย นายก็จะไม่พึงจับตัวไป
ได้. . .

ทรงสอบถาม


พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงสอบถามภิกษุทั้งหลายว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย
ข่าวว่าภิกษุณีถุลลนันทาบวชสหชีวินีไว้แล้ว ไม่พาไปเอง ไม่ให้ผู้อื่นพาไป
นายได้จับตัวไปแล้ว จริงหรือ.
ภิกษุทั้งหลายกราบทูลว่า จริง พระพุทธเจ้าข้า.

ทรงติเตียนแล้วบัญญัติสิกขาบท


พระผู้มีพระภาคพุทธเจ้าทรงติเตียนว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ไฉน
ภิกษุณีถุลลนันทาบวชสหชีวินีไว้แล้ว จึงได้ไม่พาไป ไม่ให้ผู้อื่นพาไป นาย
จึงได้จับตัวไป การกระทำของนางนั่น ไม่เป็นไปเพื่อความเลื่อมใสของชุมชน
ที่ยังไม่เลื่อมใส . . .