เมนู

บทภาชนีย์


ติกะปาจิตตีย์


[390] กรรมเป็นธรรม ภิกษุณีสำคัญว่า กรรมเป็นธรรม ให้บวช
ต้องอาบัติปาจิตตีย์.
กรรมเป็นธรรม ภิกษุณีสงสัย ให้บวช ต้องอาบัติปาจิตตีย์.
กรรมเป็นธรรม ภิกษุณีสำคัญว่า กรรมไม่เป็นธรรม ให้บวช ต้อง
อาบัติปาจิตตีย์.

ติกะทุกกฏ


กรรมไม่เป็นธรรม ภิกษุณีสำคัญว่า กรรมเป็นธรรม ต้องอาบัติทุกกฏ.
กรรมไม่เป็นธรรม ภิกษุณีสงสัย ต้องอาบัติทุกกฏ.
กรรมไม่เป็นธรรม ภิกษุณีสำคัญว่า กรรมไม่เป็นธรรม ต้องอาบัติ
ทุกกฏ.

อนาปัตติวาร


[391] บวชเด็กหญิงมีอายุครบ 12 ปี ผู้ได้ศึกษาสิกขาในธรรม 6
ประการ ตลอด 2 ปีแล้ว อันสงฆ์สมมติแล้ว 1 วิกลจริต 1 อาทิกัมมิกา 1
ไม่ต้องอาบัติแล.
คัพภินีวรรค สิกขาบทที่ 7 จบ

อรรถกถาคัพภินีวรรค สิกขาบทที่ 7


คำทั้งหมด ในสิกขาบทที่ 7 ตื้นทั้งนั้น. แม้สมุฏฐานเป็นต้น ใน
ทุกสิกขาบท มีสิกขาบทที่ 3 เป็นต้น ก็เป็นเช่นเดียวกับที่กล่าวแล้วในสิกขาบท
ที่ 2 นั่นแล. แต่มีความแปลกกันอย่างนี้:- ในสิกขาบทใดมีสมมติ ใน
สิกขาบทนั้น เป็นทั้งกิริยาทั้งอกิริยา.
อรรถกถาคัพภินีวรรค สิกขาบทที่ 7 จบ

คัพภินีวรรค สิกขาบทที่ 8


เรื่องภิกษุณีถุลลนันทา


[392] โดยสมัยนั้น พระผู้มีพระภาคพุทธเจ้าประทับอยู่ ณ พระ-
เชตวัน อารามของอนาถบิณฑิกคหบดี เขตพระนครสาวัตถี ครั้งนั้น ภิกษุณี
ถุลลนันทาบวชสหชีวินีแล้ว ไม่อนุเคราะห์เอง ไม่ให้ผู้อื่นอนุเคราะห์ ตลอด
2 ปี สหชีวินีเหล่านั้นจึงเป็นคนเขลา ไม่ฉลาด ไม่รู้จักสิ่งที่ควรหรือไม่ควร.
บรรดาภิกษุณีที่เป็นผู้มักน้อย. . . ต่างพากันเพ่งโทษ ติเตียน โพน-
ทะนาว่า ไฉนแม่เจ้าถุลลนันทาบวชสหชีวินีแล้ว จึงไม่อนุเคราะห์เอง ไม่ให้
ผู้อื่นอนุเคราะห์ตลอด 2 ปีเล่า. . .

ทรงสอบถาม


พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงสอบถามภิกษุทั้งหลายว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย
ข่าวว่า ภิกษุณีถุลลนันทาบวชสหชีวินีแล้ว ไม่อนุเคราะห์เอง ไม่ให้ผู้อื่น
อนุเคราะห์ตลอด 2 ปี จริงหรือ.
ภิกษุทั้งหลายกราบทูลว่า จริง พระพุทธเจ้าข้า.

ทรงติเตียนแล้วบัญญัติสิกขาบท


พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงติเตียนว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ไฉนภิกษุณี
ถุลลนันทาบวชสหชีวินีแล้ว จึงได้ไม่อนุเคราะห์เอง ไม่ให้ผู้อื่นอนุเคราะห์
ตลอด 2 ปีเล่า การกระทำของนางนั่น ไม่เป็นไปเพื่อความเลื่อมใสของชุมชน
ที่ยังไม่เลื่อมใส . . .
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็แลภิกษุณีทั้งหลายจงยกสิกขาบทนี้ขึ้นแสดง
อย่างนี้ ว่าดังนี้:-