เมนู

ทรงติเตียนแล้วบัญญัติสิกขาบท


พระผู้มีพระภาคพุทธเจ้าทรงติเตียนว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ไฉน
ภิกษุณีทั้งหลายจึงได้พากันบวชเด็กหญิงมีอายุครบ 12 ปี ผู้ศึกษาสิกขาใน
ธรรม 6 ประการ ตลอด 2 ปีแล้ว แต่สงฆ์ยังมิได้สมมติเล่า การกระทำของ
พวกนางนั่นไม่เป็นไปเพื่อความเลื่อมใสของชุมชนที่ยังไม่เลื่อมใส . . . ครั้นแล้ว
ทรงกระทำธรรมีกถา รับสั่งกะภิกษุทั้งหลายว่า.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตให้สงฆ์สมมติการอุปสมบทแก่เด็กหญิง
อายุครบ 12 ปี ผู้ได้ศึกษาสิกขาในธรรม 6 ประการ ตลอด 2 ปีแล้ว.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็แลวิธีการให้สมมติการอุปสมบทนั้นอันสงฆ์พึง
ให้อย่างนี้:-

วิธีการให้สมมติการอุปสมบท


อันเด็กหญิงมีอายุครบ 12 ปี ผู้ศึกษาสิกขาในธรรม 6 ประการ
ตลอด 2 ปีแล้วนั้น พึงเข้าไปหาสงฆ์ ห่มผ้าอุตราสงค์เฉวียงบ่า กราบเท่าภิกษุณี
ทั้งหลายแล้ว นั่งกระโหย่งประคองอัญชลี กล่าวอย่างนี้ว่า.
แม่เจ้า ดิฉันชื่อนี้ เป็นเด็กหญิงของแม่เจ้าชื่อนี้ มีอายุครบ 12 ปี
ได้ศึกษาสิกขาในธรรม 6 ประการ ตลอด 2 ปีแล้ว ขอสมมติการอุปสมบท
ต่อสงฆ์.
พึงขอแม้ครั้งที่สอง พึงขอแม้ครั้งที่สาม.
ภิกษุณี ผู้ฉลาด ผู้สามารถ พึงประกาศให้สงฆ์ทราบ ด้วยญัตติ-
ทุติยกรรมวาจา ว่าดังนี้:-

กรรมวาจา


แม่เจ้าเจ้าข้า ขอสงฆ์จงฟังข้าพเจ้า เด็กหญิงชื่อนี้ผู้นี้ ของ
แม่เจ้าชื่อนี้ มีอายุครบ 12 ปี ได้ศึกษาสิกขาในธรรม 6 ประการ
ตลอด 2 ปีแล้ว ขอสมมติการอุปสมบทต่อสงฆ์ ถ้าความพร้อมพรั่ง
ของสงฆ์ถึงที่แล้ว สงฆ์พึงให้สมมติการอุปสมบทแก่เด็กหญิงชื่อนี้
ผู้มีอายุครบ 12 ปี ผู้ได้ศึกษาสิกขาในธรรม 6 ประการ ตลอด 2
ปีแล้ว นี่เป็นญัตติ.
แม่เจ้าเจ้าข้า ขอสงฆ์จงฟังข้าพเจ้า เด็กหญิงชื่อนี้ผู้นี้ ของ
แม่เจ้าชื่อนี้ มีอายุครบ 12 ปี ผู้ได้ศึกษาสิกขาในธรรม 6 ประการ
ตลอด 2 ปีแล้ว ขอสมมติการอุปสมบทต่อสงฆ์ ๆ ให้สมมติการ
อุปสมบทแก่เด็กหญิงชื่อนี้ ผู้มีอายุครบ 12 ปี ผู้ได้ศึกษาสิกขาใน
ธรรม 6 ประการ ตลอด 2 ปีแล้ว การให้สมมติการอุปสมบทแก่
เด็กหญิงชื่อนี้ผู้มีอายุครบ 12 ปี ผู้ได้ศึกษาสิกขาในธรรม 6 ประการ
ตลอด 2 ปีแล้ว ชอบแก่แม่เจ้าผู้ใด แม่เจ้าผู้นั้นพึงเป็นผู้นิ่ง ไม่
ชอบแก่แม่เจ้าผู้ใด แม่เจ้าผู้นั้นพึงพูด.
สมมติการอุปสมบท อันสงฆ์ให้แล้วแก่เด็กหญิงชื่น ผู้มี
อายุครบ 12 ปี ผู้ได้ศึกษาสิกขาในธรรม 6 ประการ ตลอด 2 ปี
แล้ว ชอบแก่สงฆ์ เหตุนั้นจึงนิ่ง ข้าพเจ้าทรงความนี้ไว้ด้วยอย่างนี้.

พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงติเตียนภิกษุณีเหล่านั้นโดยอเนกปริยายดังนี้แล้ว
ตรัสโทษแห่งความเป็นคนเลี้ยงยาก. . .
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็แลภิกษุณีทั้งหลายจงยกสิกขาบทนี้ขึ้นแสดง
อย่างนี้ ว่าดังนี้:-