เมนู

สั่งว่า จงชะ ต้องอาบัติทุกกฏ เมื่อชะเสร็จ ต้องอาบัติปาจิตตีย์.
สั่งว่า จงทา ต้องอาบัติทุกกฏ เมื่อทาเสร็จ ต้องอาบัติปาจิตตีย์.
สั่งว่า จงพัน ต้องอาบัติทุกกฏ เมื่อพันเสร็จ ต้องอาบัติปาจิตตีย์.
สั่งว่า จงแกะ ต้องอาบัติทุกกฏ เมื่อแกะเสร็จ ต้องอาบัติปาจิตตีย์.

อนาปัตติวาร


[363] บอกกล่าวแล้ว ให้บ่ง ให้ผ่า ให้ชะ ให้ทาพัน ให้ หรือ
ให้แกะ 1 มีสตรีผู้รู้ความอยู่เป็นเพื่อน 1 วิกลจริต 1 อาทิกัมมิกา 1 ไม่ต้อง
อาบัติแล.
อารามวรรค สิกขาบทที่ 10 จบ
อารามวรรคที่ 6 จบ


อรรถกถาอารามวรรค สิกขาบทที่ 10


วินิจฉัยในสิกขาบทที่ 10 พึงทราบดังนี้;-
บทว่า ปสาเข ได้แก่ ในกายท่อนล่าง. จริงอยู่ กายท่อนล่างท่าน
เรียกว่า ปสาขะ เพระเหตุว่า ต้นขาทั้ง 2 แยกออกไปจากกายท่อนล่างนั้น
ดุจกิ่งแห้งต้นไม้แยกจากต้นไม้ ฉะนั้น .
ในบทว่า ภินฺท เป็นต้น มีวินิจฉัยดังนี้:- ถ้าภิกษุณีสั่งทุกอย่างว่า
จงบ่ง จงผ่า และอุบาสกนั้นทำตามสั่งอย่างนั้น ภิกษุณีต้องอาณัตติทุกกฏ
(ทุกกฏเพราะสั่ง) 6 ตัว และปาจิตตีย์ 6 ตัว. ถ้าแม้นว่า ภิกษุณีสั่งอย่านี้ว่า
อุบาสก ! กิจอย่างใดอย่างหนึ่งที่ควรทำในกายท่อนล่างนี้ ท่านจงกระทำกิจนั้น
ทั้งหมด และอุบาสกนั้น ทำกิจมีการบ่งเป็นต้น แม้ทั้งหมด. เป็นอาบัติ 12

ตัว คือ เป็นทุกกฏ 6 ตัว ปาจิตตีย์ 6 ตัว เพราะคำพูดคำเดียว. แต่ถ้า
ภิกษุณีพูดเพียงอย่างเดียว ในบรรดากิจมีการบ่งเป็นต้นแล้ว สั่งว่า จงทำกิจนี้
และอุบาสกนั้น ทำกิจทั้งหมด เป็นปาจิตตีย์ ในเพราะการทำกิจที่สั่งเท่านั้น
ในกิจที่เหลือไม่เป็นอาบัติ. คำที่เหลือ ตื้นทั้งนั้น .
สิกขาบทนี้ มีสมุฏฐานดุจกฐินสิกขาบท เป็นทั้งกิริยาทั้งอกิริยา โน-
สัญญาวิโมกข์ อจิตตกะ ปัณณัตติวัชชะ กายกรรม วจีกรรม มีจิต 3 มี
เวทนา 3 แล.
อรรถกถาอารามวรรค สิกขาบทที่ 10 จบ
อรรถกถาอารามวรรคที่ 6 จบ

ปาจิตตีย์ คัพภินีวรรคที่ 7


คัพภินีวรรค สิกขาบทที่ 1


เรื่องภิกษุณีหลายรูป


[364] โดยสมัยนั้น พระผู้มีพระภาคพุทธเจ้าประทับอยู่ ณ พระ-
เชตวัน อารามของอนาถบิณฑิกคหบดี เขตพระนครสาวัตถี ครั้งนั้น ภิกษุณี
ทั้งหลายพากันบวชสตรีมีครรภ์ นางบวชแล้วเที่ยวไปบิณฑบาต คนทั้งหลาย
พูดกันอย่างนี้ว่า ขอท่านทั้งหลายจงถวายภิกษาแก่แม่เจ้า เพราะแม่เจ้ามีครรภ์
แก่ แล้วพากันเพ่งโทษ ติเตียน โพนทะนาว่า ไฉนภิกษุณีจึงได้ให้สตรีมี
ครรภ์บวชเล่า
ภิกษุณีทั้งหลายได้ยินคนพวกนั้นเพ่งโทษ ติเตียน โพนทะนาอยู่
บรรดาที่เป็นผู้มักน้อย. . .ต่างก็เพ่งโทษ ติเตียน โพนทะนาว่า ไฉนภิกษุณี
ทั้งหลายจึงได้บวชสตรีมีครรภ์เล่า.

ทรงสอบถาม


พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงสอบถามภิกษุทั้งหลายว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย
ข่าวว่าพวกภิกษุณีให้สตรีมีครรภ์บวช จริงหรือ.
ภิกษุทั้งหลายกราบทูลว่า จริง พระพุทธเจ้าข้า.

ทรงติเตียนแล้วบัญญัติสิกขาบท


พระผู้มีพระภาคพุทธเจ้าทรงติเตียนว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ไฉน
พวกภิกษุณีจึงได้ให้สตรีมีครรภ์บวชเล่า การกระทำของพวกนางนั่น ไม่เป็น
ไปเพื่อความเลื่อมใสของชุมชนที่ยังไม่เลื่อมใส. . .