เมนู

สิกขาบทวิภังค์


[359] บทว่า ทุกระยะกึ่งเดือน คือ ทุก ๆ วันที่มีอุโบสถ.
ที่ชื่อว่า อุโบสถ ได้แก่ อุโบสถ 2 อย่าง คือ อุโบสถมีในวัน
14 ค่ำ 1 อุโบสถมีในวัน 15 ค่ำ 1.
ที่ชื่อว่า โอวาท ได้แก่ ครุธรรม 8.
พอทอดธุระว่า จักไม่ถามอุโบสถก็ดี จักไม่ขอโอวาทก็ดี ดังนี้ ต้อง
อาบัติปาจิตตีย์.

อนาปัตติวาร


[360] ในเมื่ออันตรายมี 1 แสวงหาภิกษุณีเป็นเพื่อนไม่ได้ 1
อาพาธ 1 มีเหตุขัดข้อง 1 วิกลจริต 1 อาทิกัมมิกา 1 ไม่ต้องอาบัติแล.
อารามวรรค สิกขาบทที่ 9 จบ

อรรถกถาอารามวรรค สิกขาบทที่ 9


คำทั้งหมดในสิกขาบทที่ 9 ตื้นทั้งนั้น. ความพิสดารแห่งสิกขาบทแม้
นี้ก็ได้กล่าวไว้แล้ว ในภิกขุโนวาทกสิกขาบทเหมือนกัน. สิกขาบทนี้ มีการ
ทอกธุระเป็นสมุฏฐาน เป็นอกิริยา สัญญาวิโมกข์ สจิตตกะ โลกวัชชะ
กายกรรม วจีกรรม อกุศลจิต เป็นทุกขเวทนา แล.
อรรถกถาอารามวรรค สิกขาบทที่ 9 จบ

อารามวรรค สิกขาบทที่ 10


เรื่องภิกษุณีรูปหนึ่ง


[361] โดยสมัยนั้น พระผู้มีพระภาคพุทธเจ้าประทับอยู่ ณ พระ-
เชตวัน อารามของอนาถบิณฑิกคหบดี เขตพระนครสาวัตถี ครั้งนั้น ภิกษุณี
รูปหนึ่งกับบุรุษหนึ่งต่อหนึ่ง ให้บ่งฝีอันเกิดในร่มผ้า ครั้นแล้วบุรุษนั้นได้
พยายามประทุษร้ายภิกษุณีรูปนั้น นางได้ส่งเสียงขึ้น ภิกษุณีทั้งหลายได้พากัน
วิ่งเข้าไปถามภิกษุณีนั้นว่า แม่เจ้าส่งเสียงอะไรกัน เมื่อถูกถาม นางได้เล่า
เรื่องนั้นแก่เหล่าภิกษุณี.
บรรดาภิกษุณีที่เป็นผู้มักน้อย. . . ต่างก็เพ่งโทษ ติเตียน โพนทะนา
ว่า ไฉนภิกษุณีกับบุรุษหนึ่งต่อหนึ่ง จึงได้ให้บ่งฝีอันเกิดในร่มผ้าเล่า. . .

ทรงสอบถาม


พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงสอบถามภิกษุทั้งหลายว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย
ข่าวว่าภิกษุณีกับบุรุษหนึ่งต่อหนึ่งให้บ่งฝีอันเกิดในร่มผ้า จริงหรือ.
ภิกษุทั้งหลายกราบทูลว่า จริง พระพุทธเจ้าข้า.

ทรงติเตียนแล้วบัญญัติสิกขาบท


พระผู้พระภาคพุทธเจ้าทรงติเตียนว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ไฉนภิกษุณี
กับบุรุษหนึ่งต่อหนึ่ง จึงได้ให้บ่งฝีอันเกิดในร่มผ้าเล่า การกระทำของนางนั่น
ไม่เป็นไปเพื่อความเลื่อมใสของชุมชนที่ยังไม่เลื่อมใส. . .
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็แลภิกษุณีทั้งหลายจงยกสิกขาบทนี้ขึ้นแสดง
อย่างนี้ ว่าดังนี้;-