อารามวรรค สิกขาบทที่ 9
เรื่องภิกษุณีหลายรูป
[358] โดยสมัยนั้น พระผู้มีพระภาคพุทธเจ้าประทับอยู่ ณ พระ-
เชตวัน อารามของอนาถบิณฑิกคหบดี เขตพระนครสาวัตถี ครั้งนั้น ภิกษุณี
ทั้งหลายไม่ถามอุโบสถก็มี ไม่ขอโอวาทก็มี ภิกษุทั้งหลายพากันเพ่งโทษ
ติเตียน โพนทะนาว่า ไฉนภิกษุณีทั้งหลายจึงได้ไม่ถามอุโบสถและไม่ขอโอวาท
เล่า . . .
ทรงสอบถาม
พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงสอบถามภิกษุทั้งหลายว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย
ข่าวว่าภิกษุณีทั้งหลายไม่ถามอุโบสถและไม่ขอโอวาท จริงหรือ.
ภิกษุทั้งหลายกราบทูลว่า จริง พระพุทธเจ้าข้า.
ทรงติเตียนแล้วบัญญัติสิกขาบท
พระผู้มีพระภาคพุทธเจ้าทรงติเตียนว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ไฉน
ภิกษุณีทั้งหลายจึงได้ไม่ถามอุโบสถ ไม่ขอโอวาท การกระทำของพวกนางนั่น
ไม่เป็นไปเพื่อความเลื่อมใสของชุมชนที่ยังไม่เลื่อมใส . . .
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็แลภิกษุณีทั้งหลายจงยกสิกขาบทนี้ขึ้นแสดง
อย่างนี้ ว่าดังนี้:-
พระบัญญัติ
114. 9. อนึ่ง ทุก ๆ ระยะกึ่งเดือน ภิกษุณีพึงหวังเฉพาะ
ธรรม 2 ประการ จากภิกษุสงฆ์ คือการถามอุโบสถ 1 การเข้าไป
ขอโอวาท 1 เมื่อฝ่าฝืนธรรม 2 อย่างนั้น เป็นปาจิตตีย์.
เรื่องภิกษุณีหลายรูป จบ
สิกขาบทวิภังค์
[359] บทว่า ทุกระยะกึ่งเดือน คือ ทุก ๆ วันที่มีอุโบสถ.
ที่ชื่อว่า อุโบสถ ได้แก่ อุโบสถ 2 อย่าง คือ อุโบสถมีในวัน
14 ค่ำ 1 อุโบสถมีในวัน 15 ค่ำ 1.
ที่ชื่อว่า โอวาท ได้แก่ ครุธรรม 8.
พอทอดธุระว่า จักไม่ถามอุโบสถก็ดี จักไม่ขอโอวาทก็ดี ดังนี้ ต้อง
อาบัติปาจิตตีย์.
อนาปัตติวาร
[360] ในเมื่ออันตรายมี 1 แสวงหาภิกษุณีเป็นเพื่อนไม่ได้ 1
อาพาธ 1 มีเหตุขัดข้อง 1 วิกลจริต 1 อาทิกัมมิกา 1 ไม่ต้องอาบัติแล.
อารามวรรค สิกขาบทที่ 9 จบ
อรรถกถาอารามวรรค สิกขาบทที่ 9
คำทั้งหมดในสิกขาบทที่ 9 ตื้นทั้งนั้น. ความพิสดารแห่งสิกขาบทแม้
นี้ก็ได้กล่าวไว้แล้ว ในภิกขุโนวาทกสิกขาบทเหมือนกัน. สิกขาบทนี้ มีการ
ทอกธุระเป็นสมุฏฐาน เป็นอกิริยา สัญญาวิโมกข์ สจิตตกะ โลกวัชชะ
กายกรรม วจีกรรม อกุศลจิต เป็นทุกขเวทนา แล.
อรรถกถาอารามวรรค สิกขาบทที่ 9 จบ