เมนู

อนาปัตติวาร


[317] ละแล้วจึงใช้ 1 ใช้คราวต่อไป 1 ภิกษุณีพวกอื่นผู้มีประจำ-
เดือนไม่มี 1 ถูกแย่งชิงผ้าไป 1 ผ้าหาย 1 มีเหตุฉุกเฉิน 1 วิกลจริต 1
อาทิกัมมิกา 1 ไม่ต้องอาบัติแล.
จิตตาคารวรรค สิกขาบทที่ 7 จบ

อรรถกถาจิตตาคาวรรค สิกขาบทที่ 7


วินิจฉัยในสิกขาบทที่ 7 พึงทราบดังนี้;-
บทว่า ปุนปริยาเย แปลว่า คราวต่อไป.
บทว่า อาปทาสุ มีความว่า พวกโจรลักจีวรที่มีราคาแพงซึ่งภิกษุณี
เปลื้องออกจากกาย เก็บไว้ดีแล้วไป ในอันตรายเห็นปานนี้ไม่เป็นอาบัติ แก่
ภิกษุณีผู้นุ่งไม่สละ. คำที่เหลือ ตื้นทั้งนั้น .
สิกขาบทนี้ มีสมุฏฐานดุจกฐินสิกขาบท เกิดขึ้นทางกายกับวาจา 1
ทางกายวาจากับจิต 1 เป็นทั้งกิริยาทั้งอกิริยา เป็นโนสัญญาวิโมกข์ อจิตตกะ
ปัณณัตติวัชชะ กายกรรม วจีกรรม มีจิต 3 มีเวทนา 3 แล.
อรรถกถาจิตตาคารวรรค สิกขาบทที่ 7 จบ

จิตตาคารวรรค สิกขาบทที่ 8


เรื่องภิกษุณีถุลลนันทา


[318] โดยสมัยนั้น พระผู้มีพระภาคพุทธเจ้าประทับอยู่ ณ พระ-
เชตวัน อารามของอนาถบิณฑิกคหบดี เขตพระนครสาวัตถี ครั้งนั้น ภิกษุณี
ถุลลนันทา ไม่มอบหมายห้องที่อยู่หลีกไปสู่จาริก ต่อมาห้องที่อยู่ของนางถูก
ไฟไหม้ ภิกษุณีทั้งหลายจึงพากันกล่าวอย่างนี้ว่า แม่เจ้าทั้งหลาย พวกเราจง
ช่วยกันขนสิ่งของออก.
ภิกษุณีบางพวกกล่าวอย่างนี้ว่า พวกดิฉันไม่ขนเจ้าข้า เพราะของสิ่ง
ใดสิ่งหนึ่งหายไป แม่เจ้าจักทวงเอากะพวกเราจนครบ.
เมื่อภิกษุณีถุลลนันทากลับมายังห้องที่อยู่นั้นแล้ว ถามภิกษุณีทั้งหลาย
ว่า แม่เจ้าทั้งหลายได้ช่วยขนสิ่งของออกบ้างหรือเปล่า.
ภิกษุณีทั้งหลายตอบว่า พวกดิฉันไม่ได้ขนออกเลยเจ้าข้า.
ภิกษุณีถุลลนันทาจึงเพ่งโทษ ติเตียน โพนทะนาว่า ไฉนภิกษุณี
ทั้งหลายเมื่อห้องที่อยู่ถูกอัคคีภัย จึงได้ไม่ช่วยกันขนสิ่งของออกเล่า.
บรรดาภิกษุณีที่เป็นผู้มักน้อย. . . ต่างก็เพ่งโทษ ติเตียน โพนทะนา
ว่า ไฉนแม่เจ้าถุลลนันทาจึงไม่มอบหมายห้องที่อยู่ หลีกไปสู่จาริกเล่า. . .

ทรงสอบถาม


พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงสอบถามภิกษุทั้งหลายว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย
ข่าวว่าภิกษุณีถุลลนันทาไม่มอบหมายห้องที่อยู่หลีกไปสู่จาริก จริงหรือ.
ภิกษุทั้งหลายกราบทูลว่า จริง พระพุทธเจ้าข้า.