เมนู

พระบัญญัติ


102. 7. อนึ่ง ภิกษุใด ใช้ผ้าอาศัยไม่ละ เป็นปาจิตตีย์
เรื่องภิกษุณีถุลลนันทา จบ

สิกขาบทวิภังค์


[315] บทว่า อนึ่ง. . .ใด ความว่า ผู้ใด คือ ผู้เช่นใด. . .
บทว่า ภิกษุณี ความว่า ที่ชื่อว่า ภิกษุณี เพราะอรรถว่าเป็นผู้
ขอ. . . นี้ชื่อว่า ภิกษุณี ที่ทรงประสงค์ในอรรถนี้.
ที่ชื่อว่า ผ้าอาศัย ได้แก่ ผ้าที่เขาถวายไว้สำหรับให้ภิกษุณีผู้มี
ประจำเดือนใช้.
บทว่า ใช้. . .ไม่ละ คือใช้ 2-3 ราตรี ซักในวันที่ 4 แล้วยัง
ใช้อีก ไม่ยอมให้ภิกษุณี สิกขมานา หรือสามเณรี ใช้บ้าง ต้องอาบัติปาจิตตีย์.

บทภาชนีย์


ติกะปาจิตตีย์


[316] ยังไม่ละ ภิกษุณีสำคัญว่ายังไม่ละ ใช้ ต้องอาบัติปาจิตตีย์.
ยังไม่ละ ภิกษุณีมีความสงสัย ใช้ ต้องอาบัติปาจิตตีย์.
ยังไม่ละ ภิกษุณีสำคัญว่าละแล้ว ใช้ ต้องอาบัติปาจิตตีย์.

ทุกะทุกกฏ


ละแล้ว ภิกษุณีสำคัญว่ายังไม่ล ะ ต้องอาบัติทุกกฏ.
ละแล้ว ภิกษุณีมีความสงสัย ต้องอาบัติทุกกฏ.
ละแล้ว ภิกษุณีสำคัญว่าละแล้ว ไม่ต้องอาบัติ.

อนาปัตติวาร


[317] ละแล้วจึงใช้ 1 ใช้คราวต่อไป 1 ภิกษุณีพวกอื่นผู้มีประจำ-
เดือนไม่มี 1 ถูกแย่งชิงผ้าไป 1 ผ้าหาย 1 มีเหตุฉุกเฉิน 1 วิกลจริต 1
อาทิกัมมิกา 1 ไม่ต้องอาบัติแล.
จิตตาคารวรรค สิกขาบทที่ 7 จบ

อรรถกถาจิตตาคาวรรค สิกขาบทที่ 7


วินิจฉัยในสิกขาบทที่ 7 พึงทราบดังนี้;-
บทว่า ปุนปริยาเย แปลว่า คราวต่อไป.
บทว่า อาปทาสุ มีความว่า พวกโจรลักจีวรที่มีราคาแพงซึ่งภิกษุณี
เปลื้องออกจากกาย เก็บไว้ดีแล้วไป ในอันตรายเห็นปานนี้ไม่เป็นอาบัติ แก่
ภิกษุณีผู้นุ่งไม่สละ. คำที่เหลือ ตื้นทั้งนั้น .
สิกขาบทนี้ มีสมุฏฐานดุจกฐินสิกขาบท เกิดขึ้นทางกายกับวาจา 1
ทางกายวาจากับจิต 1 เป็นทั้งกิริยาทั้งอกิริยา เป็นโนสัญญาวิโมกข์ อจิตตกะ
ปัณณัตติวัชชะ กายกรรม วจีกรรม มีจิต 3 มีเวทนา 3 แล.
อรรถกถาจิตตาคารวรรค สิกขาบทที่ 7 จบ