จิตตาคารวรรค สิกขาบทที่ 4
เรื่องภิกษุณีหลายรูป
[304] โดยสมัยนั้น พระผู้มีพระภาคพุทธเจ้าประทับ อยู่ ณ พระ-
เชตวัน อารามของอนาถบิณฑิกคหบดี เขตพระนครสาวัตถี ครั้งนั้น ภิกษุณี
ทั้งหลายช่วยทำงานของชาวบ้าน บรรดาภิกษุณีที่เป็นผู้มักน้อย. . .ต่างก็เพ่งโทษ
ติเตียน โพนทะนาว่า ไฉนภิกษุณีทั้งหลายจึงได้ช่วยทำงานของชาวบ้านเล่า. . .
ทรงสอบถาม
พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงสอบถามภิกษุทั้งหลายว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย
ข่าวว่า พวกภิกษุณีช่วยทำงานของชาวบ้าน จริงหรือ.
ภิกษุทั้งหลายกราบทูลว่า จริง พระพุทธเจ้าข้า.
ทรงติเตียนแล้วบัญญัติสิกขาบท
พระผู้มีพระภาคพุทธเจ้าทรงติเตียนว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ไฉน
ภิกษุณีจึงได้ช่วยทำงานของชาวบ้านเล่า การกระทำของพวกนางนั่น ไม่เป็น
ไปเพื่อความเลื่อมใส ของชุมชนที่ยังไม่เลื่อมใส. . .
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็แลภิกษุณีทั้งหลายจงยกสิกขาบทนี้ขึ้นแสดง
อย่างนี้ ว่าดังนี้ :-
พระบัญญัติ
99. 4. อนึ่ง ภิกษุณีใด ทำงานช่วยเหลือสำหรับคฤหัสถ์
เป็นปาจิตตีย์.
เรื่องภิกษุณีหลายรูป จบ
สิกขาบทวิภังค์
[305] บทว่า อนึ่ง. . .ใด ความว่า ผู้ใด คือ ผู้เช่นใด. . .
บทว่า ภิกษุณี ความว่า ที่ชื่อว่า ภิกษุณี เพราะอรรถว่าเป็นผู้ขอ. . .
นี้ชื่อว่า ภิกษุณี ที่ทรงประสงค์ในอรรถนี้.
ที่ชื่อว่า งานช่วยเหลือสำหรับคฤหัสถ์ คือ ต้มยาคูก็ดี หุงข้าว
ก็ดี ทำของเคี้ยวก็ดี หรือซักผ้าสาฎกก็ดี ผ้าโพกก็ดี ของชาวบ้าน ต้อง
อาบัติปาจิตตีย์.
อนาปัตติวาร
[306] ต้มยาคูถวายสงฆ์ 1 หุงข้าวถวายสงฆ์ 1 ในการบูชาเจดีย 1
ต้มยาคูก็ดี หุงข้าวก็ดี ทำของเคี้ยวก็ดี ซักผ้าสาฎกก็ดี ผ้าโพกก็ดี ให้แก่
ไวยาวัจกรของตน 1 วิกลจริต 1 อาทิกัมมิกา 1 ไม่ต้องอาบัติแล.
จิตตาคารวรรค สิกขาบทที่ 4 จบ
อรรถกถาจิตตาคารวรรค สิกขาบทที่ 4
วินิจฉัยในสิกขาบทที่ 4 พึงทราบดังนี้ :-
ในบทว่า ยาคู วา เป็นต้น พึงทราบว่า เป็นทุกกฏ โดยนับประโยค
ในทุก ๆ ประโยค ตั้งต้นแต่การบดข้าวสารเป็นต้น . ในข้าวต้มและข้าวสวย
พึงทราบว่า เป็นปาจิตตีย์มากตัว โดยการนับภาชนะ. ในของควรเคี้ยวเป็นต้น
เป็นปาจิตตีย์มากตัว โดยการนับชนิดของ.