เมนู

ปาจิตตีย์ จิตตาคารวรรคที่ 5


จิตตาคารวรรค สิกขาบทที่ 1


เรื่องภิกษุณีฉัพพัคคีย์


[295] โดยสมัยนั้น พระผู้มีพระภาคพุทธเจ้าประทับอยู่ ณ พระ-
เชตวัน อารามของอนาถบิณฑิกคหบดี เขตพระนครสาวัตถี ครั้งนั้น ใน
พระราชอุทยานของพระเจ้าปเสนทิโกศล มีลายภาพสวยงามซึ่งจิตกรเขียนไว้ใน
ห้องภาพ คนเป็นอันมากพากันไปดูห้องภาพ แม้ภิกษุณีเหล่าฉัพพัคคีย์ก็ได้ไป
ดูห้องภาพ ชาวบ้านพากันเพ่งโทษ ติเตียน โพนทะนาว่า ไฉนพวกภิกษุณี
จึงได้ไปดูห้องภาพ เหมือนสตรีชาวบ้านผู้บริโภคกามเล่า.
ภิกษุณีทั้งหลายได้ยินชาวบ้านพวกนั้นเพ่งโทษ ติเตียน โพนทะนา
อยู่ บรรดาที่เป็นผู้มักน้อย. . . ต่างก็เพ่งโทษ ติเตียน โพนทะนาว่า ไฉน
ภิกษุณีเหล่าฉัพพัคคีย์จึงได้ไปดูห้องภาพเล่า. . .

ทรงสอบถาม


พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงสอบถามภิกษุทั้งหลายว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย
ข่าวว่า ภิกษุณีเหล่านี้ฉัพพัคคีย์ไปดูห้องภาพ จริงหรือ.
ภิกษุทั้งหลายกราบทูลว่า จริง พระพุทธเจ้าข้า.

ทรงติเตียนแล้วบัญญัติสิกขาบท


พระผู้มีพระภาคพุทธเจ้าทรงติเตียนว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ไฉน
ภิกษุณีเหล่าฉัพพัคคีย์จึงได้ไปดูห้องภาพเล่า การกระทำของพวกนางนั่น ไม่
เป็นไปเพื่อความเลื่อมใสของชุมชนที่ยังไม่เลื่อมใส. . .

ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็แลภิกษุณีทั้งหลายจงยกสิกขาบทนี้ขึ้นแสดง
อย่างนี้ ว่าดังนี้:-

พระบัญญัติ


96. 1. อนึ่ง ภิกษุณีใด ไปดูโรงละครหลวงก็ดี อาคาร
ประกวดภาพก็ดี สถานที่หย่อนใจก็ดี อุทยานก็ดี สระโบกขรณีก็ดี
เป็นปาจิตตีย์
.
เรื่องภิกษุณีฉัพพัคคีย์ จบ

สิกขาบทวิภังค์


[296] บทว่า อนึ่ง. . .ใด ความว่า ผู้ใด คือ ผู้เช่นใด. . .
บทว่า ภิกษุณี ความว่า ที่ชื่อว่า ภิกษุณี เพราะอรรถว่าเป็นผู้
ขอ. . . นี้ชื่อว่า ภิกษุณี ที่ทรงประสงค์ในอรรถนี้.
ที่ชื่อว่า โรงละครหลวง ได้แก่ สถานที่เขาสร้างขึ้นไว้ถวายพระ
ราชาเพื่อให้ทรงเพลิดเพลิน เพื่อทรงพระสำราญ.
ที่ชื่อว่า อาคารประกวดภาพ ได้แก่ สถานที่เขาสร้างขึ้นไว้ เพื่อ
ให้คนทั้งหลายชมเล่น เพื่อความรื่นเริง.
ที่ชื่อว่า สถานที่หย่อนใจ ได้แก่ สถานที่เขาสร้างขึ้นไว้เพื่อให้
คนทั้งหลายเล่น เพื่อหย่อนอารมณ์.
ที่ชื่อว่า อุทยาน ได้แก่ อุทยานที่เขาจัดไว้เพื่อให้คนทั้งหลายเล่น
กีฬา เพื่อพักผ่อน.
ที่ชื่อว่า สระโบกขรณี ได้แก่ ชลาลัยที่เขาขุดไว้เพื่อให้คนทั้งหลาย
เล่นกีฬา เพื่อรื่นเริง.