เมนู

ปาราชิกสิกขาบทที่ 4


เรื่องภิกษุณีฉัพพัคคีย์


[26] โดยสมัยนั้น พระผู้มีพระภาคพุทธเจ้า ประทับอยู่ ณ พระ-
เชตวันอารามของอนาถบิณฑิกคหบดี เขตพระนครสาวัตถี ครั้งนั้น ภิกษุณี
ฉัพพัคคีย์มีความกำหนัด การที่บุรุษบุคคลผู้กำหนัดจับมือบ้าง จับชายผ้า
สังฆาฏิบ้าง ยืนด้วยบ้าง สนทนาด้วยบ้าง ไปสู่ที่นัดแนะกันบ้าง ยินดีการที่บุรุษ
มาหาตามนัดบ้าง เข้าไปสู่ที่มุงด้วยกันบ้าง ทอดกายเพื่อประโยชน์แก่บุรุษนั้น
เพื่อประสงค์จะเสพอสัทธรรมนั้นบ้าง บรรดาภิกษุณีที่เป็นผู้มักน้อย. . . ต่างก็
เพ่งโทษ ติเตียน โพนทะนาว่า ไฉนภิกษุณีฉัพพัคคีย์ จึงได้มีความกำหนัด
ยินดีการที่บุรุษบุคคลผู้กำหนัดจับมือบ้าง จับชายผ้าสังฆาฎิบ้าง ยืนด้วยบ้าง
สนทนาด้วยบ้าง ไปสู่ที่นัดแนะกันบ้าง ยินดีการที่บุรุษมาหาตามนัดบ้าง เข้า
ไปสู่ที่มุงด้วยกันบ้าง ทอดกายเพื่อประโยชน์แก่บุรุษนั้น เพื่อประสงค์จะเสพ
อสัทธรรมนั้นบ้างเล่า. . .แล้วกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า.

ทรงสอบถาม


ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงสอบถามว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย
ข่าวว่า ภิกษุณีฉัพพัคคีย์มีความกำหนัด ยินดีการที่บุรุษบุคคลผู้กำหนัดจับมือ
บ้าง จับชายผ้าสังฆาฏิบ้าง ยืนด้วยบ้าง สนทนาด้วยบ้าง ไปสู่ที่นัดแนะกัน
บ้าง ยินดีการที่บุรุษมาหาตามนัดบ้าง เข้าไปสู่ที่มุงด้วยกันบ้าง ทอดกายเพื่อ
ประโยชน์แก่บุรุษนั้น เพื่อประสงค์จะเสพอสัทธรรมนั้นบ้าง จริงหรือ.
ภิกษุทั้งหลายกราบทูลว่า จริง พระพุทธเจ้าข้า.

ทรงติเตียนแล้วบัญญัติสิกขาบท


พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงติเตียนว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ไฉนภิกษุณี
ฉัพพัคคีย์จึงมีความกำหนัด ยินดีการที่บุรุษบุคคลผู้กำหนัดจับมือบ้าง จับ
ชายผ้าสังฆาฏิบ้าง ยืนด้วยบ้าง สนทนาด้วยบ้าง ไปสู่ที่นัดแนะกันบ้าง ยินดี
การที่บุรุษมาหาตามนัดบ้าง เข้าไปสู่ที่มุงด้วยกันบ้าง ทอดกายเพื่อประโยชน์
แก่บุรุษนั้น เพื่อประสงค์จะเสพอสัทธรรมนั้นบ้าง การกระทำของพวกนางนั่น
ไม่เป็นไปเพื่อความเลื่อมใสของชุมชนที่ยังไม่เลื่อมใส. . .
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็แลภิกษุณีทั้งหลาย จงยกสิกขาบทนี้ขึ้นแสดง
อย่างนี้ ว่าดังนี้ :-

พระบัญญัติ


8.4. อนึ่ง ภิกษุณีใด มีความกำหนัด ยินดีการที่บุรุษบุคคล
ผู้กำหนัดจับมือก็ดี จับชายผ้าสังฆาฏิก็ดี ยินด้วยก็ดี สนทนาด้วย
ก็ดี ไปสู่ที่นัดหมายกันก็ดี ยินดีการที่บุรุษมาหาตามนัดก็ดี เข้าไป
สู่ที่มุงด้วยกันก็ดี ทอดกายเพื่อประโยชน์แก่บุรุษนั้น เพื่อประสงค์
จะเสพอสัทธรรมนั้นก็ดี แม่ภิกษุณีนี้ก็เป็นปาราชิก ชื่ออัฏฐวัตถุกา
หาสังวาสมิได้.

เรื่องภิกษุณีฉัพพัคคีย์ จบ

สิกขาบทวิภังค์


[27] บทว่า อนึ่ง. . .ใด ความว่า ผู้ใด คือผู้เช่นใด. . .
บทว่า ภิกษุณี ความว่า ที่ชื่อว่า ภิกษุณี เพราะอรรถว่าเป็น
ผู้ขอ. . .นี้ชื่อว่า ภิกษุณี ที่ทรงประสงค์ในอรรถนี้.