เมนู

พระบัญญัติ


89. 4. อนึ่ง ภิกษุณีใด ไม่ช่วยเหลือ ไม่ขวนขวายเพื่อให้
ผู้อื่นช่วยเหลือ ซึ่งสหชีวินีผู้ได้รับความลำบาก เป็นปาจิตตีย์.

เรื่องภิกษุณีถุลลนันทา จบ

สิกขาบทวิภังค์


[270] บทว่า อนึ่ง. . .ใด ความว่า ผู้ใด คือ ผู้เช่นใด. . .
บทว่า ภิกษุณี ความว่า ที่ชื่อว่า ภิกษุณี เพราะอรรถว่าเป็นผู้
ขอ. . . นี้ชื่อว่า ภิกษุณี ที่ทรงประสงค์ในอรรถนี้.
ที่ชื่อว่า ผู้ได้รับความลำบาก ได้แก่ ที่เรียกกันว่าผู้ป่วยใข้.
ที่ชื่อว่า สหชีวินี ได้แก่ ภิกษุณีที่เรียกกันว่าสัทธิวิหารินี.
บทว่า ไม่ช่วยเหลือ คือ ไม่ดูแลด้วยตนเอง.
บทว่า ไม่ขวนขวายเพื่อให้ผู้อื่นช่วยเหลือ คือ ไม่ใช้ผู้อื่น.
พอทอดธุระว่าจักไม่ช่วยเหลือ จักไม่ขวนขวายเพื่อให้ผู้อื่นช่วยเหลือ
ดังนี้ ต้องอาบัติปาจิตตีย์.
ไม่ช่วยเหลือ ไม่ขวนขวายเพื่อให้ผู้อื่นช่วยเหลือ ซึ่งอันเตวาสินีก็ดี
อนุปสัมบันก็ดี ต้องอาบัติทุกกฏ.

อนาปัตติวาร


[271] ในเมื่ออันตรายมี 1 แสวงหาแล้วไม่ได้ 1 อาพาธ 1 มีเหตุ
ขัดข้อง 1 วิกลจริต 1 อาทิกัมมิกา 1 ไม่ต้องอาบัติแล.
ตุวัฏฏวรรค สิกขาบทที่ 4 จบ

อรรถกถาตุวัฏฏวรรค สิกขาบทที่ 4


วินิจฉัยในสิกขาบทที่ 4 พึงทราบดังนี้:-
สองบทว่า สติ อนฺตราเย คือ เมื่อมีอันตราย 10 อย่าง.
สองบทว่า ปริเยสิตฺวา น ลภติ คือ ไม่ได้ภิกษุณีอื่นผู้ช่วยเหลือ.
บทว่า คิลานาย คือ อาพาธเสียเอง.
บทว่า อาปทาสุ ได้แก่ เมื่อมีอันตรายเห็นปานนั้น ไม่เป็นอาบัติ.
คำที่เหลือ ง่ายทั้งนั้น.
สิกขาบทนี้ มีการทอดธุระเป็นสมุฏฐาน เป็นอกิริยา สัญญาวิโมกข์
สจิตตกะ โลกวัชชะ กายกรรม วจีกรรม อกุศลจิต เป็นทุกขเวทนา แล.
อรรถกถาตุวัฏฏวรรค สิกขาบทที่ 4 จบ