เมนู

ตุวัฏฏวรรค สิกขาบทที่ 4


เรื่องภิกษุณีถุลลนันทา


[269] โดยสมัยนั้น พระผู้มีพระภาคพุทธเจ้าประทับอยู่ ณ พระ-
เชตวัน อารามของอนาถบิณฑิกคหบดี เขตพระนครสาวัตถี ครั้งนั้น ภิกษุณี
ถุลลนันทาไม่ช่วยเหลือสหชีวินีผู้ได้รับความลำบาก ทั้งไม่ขวนขวายให้ผู้อื่น
ช่วยเหลือ.
บรรดาภิกษุณีที่เป็นผู้มักน้อย. . . ต่างก็เพ่งโทษ ติเตียน โพนทะนา
ว่า ไฉนแม่เจ้าถุลลนันทาจึงไม่ช่วยเหลือสหชีวินีผู้ได้รับความลำบาก ทั้งไม่ขวน
ขวายให้ผู้อื่นช่วยเหลือเล่า . . .

ทรงสอบถาม


พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงสอบถามภิกษุทั้งหลายว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย
ข่าวว่าภิกษุณีถุลลนันทาไม่ช่วยเหลือสหชีวินีผู้ได้รับความลำบาก ทั้งไม่ขวน-
ขวายให้ผู้อื่นช่วยเหลือ จริงหรือ.
ภิกษุทั้งหลายกราบทูลว่า จริง พระพุทธเจ้าข้า.

ทรงติเตียนแล้วบัญญัติสิกขาบท


พระผู้มีพระภาคพุทธเจ้าทรงติเตียนว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ไฉน
ภิกษุณีถุลลนันทา จึงได้ไม่ช่วยเหลือสหชีวินีผู้ได้รับความลำบาก ทั้งไม่ขวน
ขวายให้ผู้อื่นช่วยเหลือเล่า การกระทำของนางนั่น ไม่เป็นไปเพื่อความเลื่อมใส
ของชุมชนที่ยังไม่เลื่อมใส. . .
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็แลภิกษุณีทั้งหลายจงยกสิกขาบทนี้ขึ้นแสดง
อย่างนี้ ว่าดังนี้:-

พระบัญญัติ


89. 4. อนึ่ง ภิกษุณีใด ไม่ช่วยเหลือ ไม่ขวนขวายเพื่อให้
ผู้อื่นช่วยเหลือ ซึ่งสหชีวินีผู้ได้รับความลำบาก เป็นปาจิตตีย์.

เรื่องภิกษุณีถุลลนันทา จบ

สิกขาบทวิภังค์


[270] บทว่า อนึ่ง. . .ใด ความว่า ผู้ใด คือ ผู้เช่นใด. . .
บทว่า ภิกษุณี ความว่า ที่ชื่อว่า ภิกษุณี เพราะอรรถว่าเป็นผู้
ขอ. . . นี้ชื่อว่า ภิกษุณี ที่ทรงประสงค์ในอรรถนี้.
ที่ชื่อว่า ผู้ได้รับความลำบาก ได้แก่ ที่เรียกกันว่าผู้ป่วยใข้.
ที่ชื่อว่า สหชีวินี ได้แก่ ภิกษุณีที่เรียกกันว่าสัทธิวิหารินี.
บทว่า ไม่ช่วยเหลือ คือ ไม่ดูแลด้วยตนเอง.
บทว่า ไม่ขวนขวายเพื่อให้ผู้อื่นช่วยเหลือ คือ ไม่ใช้ผู้อื่น.
พอทอดธุระว่าจักไม่ช่วยเหลือ จักไม่ขวนขวายเพื่อให้ผู้อื่นช่วยเหลือ
ดังนี้ ต้องอาบัติปาจิตตีย์.
ไม่ช่วยเหลือ ไม่ขวนขวายเพื่อให้ผู้อื่นช่วยเหลือ ซึ่งอันเตวาสินีก็ดี
อนุปสัมบันก็ดี ต้องอาบัติทุกกฏ.

อนาปัตติวาร


[271] ในเมื่ออันตรายมี 1 แสวงหาแล้วไม่ได้ 1 อาพาธ 1 มีเหตุ
ขัดข้อง 1 วิกลจริต 1 อาทิกัมมิกา 1 ไม่ต้องอาบัติแล.
ตุวัฏฏวรรค สิกขาบทที่ 4 จบ