ตุวัฏฏวรรคที่ 4
สิกขาบทที่ 1
เรื่องภิกษุณีหลายรูป
[258] โดยสมัยนั้น พระผู้มีพระภาคพุทธเจ้าประทับอยู่ ณ พระ-
เชตวัน อารามของอนาถบิณฑิกคหบดี เขตพระนครสาวัตถี ครั้งนั้น ภิกษุณี
สองรูปจำวัดร่วมเตียงกัน คนทั้งหลายเที่ยวเดินชมวิหาร พบเห็นแล้วพากัน
เพ่งโทษ ติเตียน โพนทะนาว่า ไฉนภิกษุณีทั้งหลายจึงได้นอนร่วมเตียงกัน
สองรูป เหมือนหญิงชาวบ้านเล่า.
ภิกษุณีทั้งหลายได้ยินคนเหล่านั้น เพ่งโทษ ติเตียน โพนทะนาอยู่
บรรดาที่เป็นผู้มักน้อย. . .ต่างก็เพ่งโทษ ติเตียน โพนทะนาว่า ไฉนภิกษุณี
ทั้งหลาย จึงได้จำวัดบนเตียงเดียวกันสองรูปเล่า. . .
ทรงสอบถาม
พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงสอบถามภิกษุทั้งหลายว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย
ข่าวว่าพวกภิกษุณีจำวัดร่วมเตียงกันสองรูป จริงหรือ.
ภิกษุทั้งหลายกราบทูลว่า จริง พระพุทธเจ้าข้า.
ทรงติเตียนแล้วบัญญัติสิกขาบท
พระผู้มีพระภาคพุทธเจ้าทรงติเตียนว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ไฉนพวก
ภิกษุณีจึงได้จำวัดร่วมเตียงเดียวกันสองรูปเล่า การกระทำของพวกนางนั่น ไม่
เป็นไปเพื่อความเลื่อมใสยิ่งของชุมชนที่ยังไม่เลื่อมใส. . .
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็แลภิกษุณีทั้งหลายจงยกสิกขาบทนี้ขึ้น แสดง
อย่างนี้ ว่าดังนี้:-
พระบัญญัติ
86. 1. อนึ่ง เหล่าภิกษุณีใด สองรูปนอนในเตียงเดียวกัน
เป็นปาจิตตีย์ .
เรื่องภิกษุณีหลายรูป จบ
สิกขาบทวิภังค์
[259] บทว่า อนึ่ง. . .ใด ความว่า ผู้ใด คือ ผู้เช่นใด. . .
ที่ชื่อว่า เหล่าภิกษุณี ได้แก่ เหล่าสตรีทีเรียกกันว่า ภิกษุณีอุป-
สัมบัน.
พากย์ว่า สองรูปนอนในเตียงเดียวกัน คือ เมื่อรูปหนึ่งนอนแล้ว
อีกรูปหนึ่งจึงนอน ต้องอาบัติปาจิตตีย์ หรือนอนทั้งสองรูป ต้องอาบัติปาจิตตีย์
ลุกขึ้นแล้วนอนต่ออีก ก็ต้องอาบัติปาจิตตีย์.
อนาปัตติวาร
[260] รูปหนึ่งนอน อีกรูปหนึ่งนั่ง หรือนั่งทั้งคู่ 1 วิกลจริตทั้งคู่ 1
อาทิกัมมิกาทั้งคู่ 1 ไม่ต้องอาบัติแล.
ตุวัฏฏวรรค สิกขาบทที่ 1 จบ