ทรงสอบถาม
พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงสอบถามภิกษุทั้งหลายว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย
ข่าวว่าภิกษุณีถุลลนันทาได้ยังสมัยจีวรกาลให้ล่วงไป ด้วยหวังว่าจะได้จีวรอัน
ไม่แน่นอนจริงหรือ.
ภิกษุทั้งหลายกราบทูลว่า จริง พระพุทธเจ้าข้า.
ทรงติเตียนแล้วบัญญัติสิกขาบท
พระผู้มีพระภาคพุทธเจ้าทรงติเตียนว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ไฉน
ภิกษุณีถุลลนันทาจึงได้ยังสมัยจีวรกาลให้ล่วงไป ด้วยหวังว่าจะได้จีวรอันไม่
แน่นอนเล่า การกระทำของนางนั่น ไม่เป็นไปเพื่อความเลื่อมใสของชุมชนที่
ยังไม่เลื่อมใส. . .
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็แลภิกษุณีทั้งหลายจงยกสิกขาบทนี้ขึ้นแสดง
อย่างนี้ ว่าดังนี้ :-
พระบัญญัติ
84.9. อนึ่ง ภิกษุณีใด ยังสมัยจีวรกาลให้ล่วงไป ด้วย
หวังว่าจะได้จีวรอันไม่แน่นอน เป็นปาจิตตีย์.
สิกขาบทวิภังค์
[250] บทว่า อนึ่ง. . .ใด ความว่า ผู้ใด คือ ผู้เช่นใด. . .
บทว่า ภิกษุณี ความว่า ที่ชื่อว่า ภิกษุณี เพราะอรรถว่าเป็นผู้ขอ. . .
นี้ ชื่อว่า ภิกษุณี ที่ทรงประสงค์ในอรรถนี้.
ที่ชื่อว่า หวังว่าจะได้จีวรอันไม่แน่นอน ได้แก่ วาจาที่เขาเปล่ง
ออกมาว่า ถ้าพวกข้าพเจ้าสามารถ ก็จักถวาย จักทำ.
ที่ชื่อว่า สมัยจีวรกาล คือ เมื่อกฐินยังไม่ได้กราน มีกำหนดเดือน
หนึ่งท้ายฤดูฝน เมื่อได้กรานกฐินแล้ว มีกำหนด 5 เดือน.
บทว่า ยังสมัยจีวรกาลให้ล่วงไป ความว่า เมื่อไม่ได้กรานกฐิน
ยังวันที่กฐินเดาะให้ล่วงไป ต้องอาบัติปาจิตตีย์.
บทภาชนีย์
[251] จีวรไม่แน่นอน ภิกษุณีสำคัญว่าจีวรไม่แน่นอน ยังสมัย
จีวรกาลให้ล่วงไป ต้องอาบัติปาจิตตีย์.
จีวรไม่แน่นอน ภิกษุณีสงสัย ยังสมัยจีวรกาลให้ล่วงไป ต้องอาบัติ
ทุกกฏ.
จีวรไม่แน่นอน ภิกษุณีสำคัญว่าแน่นอน ยังสมัยจีวรกาลให้ล่วงไป
ไม่ต้องอาบัติ.
จีวรแน่นอน ภิกษุสำคัญว่าจีวรไม่แน่นอน ต้องอาบัติทุกกฏ.
จีวรแน่นอน ภิกษุณีสงสัย ต้องอาบัติทุกกฏ.
จีวรแน่นอน ภิกษุณีสำคัญว่าจีวรแน่นอน ไม่ต้องอาบัติ.
อนาปัตติวาร
[252] แสดงอานิสงส์แล้วห้าม 1 วิกลจริต 1 อาทิกัมมิกา 1 ไม่
ต้องอาบัติแล.
นัคควรรค สิกขาบทที่ 9 จบ