เมนู

อานาปัตติวาร


[204 ] บอกแล้ว นั่งก็ดี นอนก็ดี บนอาสนะ 1 บนอาสนะที่เขา
ปูไว้เป็นประจำ 1 อาพาธ 1 มีอันตราย 1 วิกลจริต 1 อาทิกัมมิกา 1 ไม่
ต้องอาบัติแล.
อันธการวรรค สิกขาบทที่ 6 จบ

อรรถกถาอันธการวรรค สิกขาบทที่ 6


วินิจฉัยในสิกขาบทที่ 6 พึงทราบดังนี้:-
บทว่า อภินีสีเทยฺย แปลว่า พึงนิ่ง. เมื่อนั่งแล้วลุกไป เป็นอาบัติ
ตัวเดียว. เมื่อไม่นั่ง นอนแล้วไป เป็นอาบัติตัวเดียว. เมื่อนั่งแล้วนอน
เป็นอาบัติ 2 ตัว.
บทว่า ธุวปญฺญตฺเต ได้แก่ อาสนะที่เขาปูไว้เป็นประจำ เพื่อ
ประโยชน์แก่ภิกษุณีทั้งหลาย. คำที่เหลือ ตื้นทั้งนั้น.
สิกขาบทนี้ มีสมุฏฐานเหมือนกับกฐินสิกขาบท ฯลฯ มีเวทนา 3
ฉะนี้แล.

อรรถกถาอันธการวรรค สิกขาบทที่ 6 จบ

อันธการวรรค สิกขาบทที่ 7


เรื่องภิกษุณีหลายรูป


[205] โดยสมัยนั้น พระผู้มีพระภาคพุทธเจ้าประทับอยู่ ณ พระ-
เชตวัน อารามของอนาถบิณฑิกคหบดี เขตพระนครสาวัตถี ครั้งนั้น ภิกษุณี
หลายรูปพากันไปสู่พระนครสาวัตถีในโกศลชนบท พอเข้าถึงบ้านหมู่หนึ่งใน
เวลาเย็นได้เข้าสู่สกุลพราหมณ์สกุลหนึ่ง ขอที่พักแรม พราหมณีจึงได้กล่าว
คำนี้กะภิกษุณีเหล่านั้นว่า แม่เจ้าทั้งหลาย ขอได้โปรดรอจนกว่าท่านพราหมณ์
จะมา.
ภิกษุณีทั้งหลายกล่าวว่า จนกว่าท่านพราหมณ์จะมา ดังนี้ แล้วได้จัด
ปูลาดเครื่องสำหรับนอนแล้ว บางพวกนั่ง บางพวกนอน.
ตกค่ำพราหมณ์มาเห็นแล้วได้ถามพราหมณีนั้นว่า สตรีเหล่านั้นคือใคร
กัน พราหมณีตอบว่า ภิกษุณีเจ้าค่ะ.
พราหมณ์กล่าวว่า จงขับไล่ไป สตรีศีรษะโล้นเหล่านี้เป็นหญิงเสเพล
ดังนี้ แล้วให้ขับไล่ออกจากเรือนไป.
ครั้นภิกษุณีเหล่านั้นไปถึงพระนครสาวัตถีแล้ว ได้เล่าเรื่องนั้นแก่
ภิกษุณีทั้งหลาย บรรดาภิกษุณีที่เป็นผู้มักน้อย. . . ต่างก็เพ่งโทษ ติเตียน
โพนทะนาว่า ไฉนภิกษุณีทั้งหลายจึงได้เข้าสู่สกุลในเวลาวิกาล แล้วไม่บอก
เจ้าของบ้าน ปูลาดเองบ้างให้ผู้อื่นปูลาดบ้าง ซึ่งเครื่องนอน แล้วนั่งบ้าง
นอนบ้างเล่า. . .