เมนู

ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็แลภิกษุณีทั้งหลายจงยกสิกขาบทนี้ขึ้นแสดง
อย่างนี้ ว่าดังนี้:-

พระบัญญัติ


67. 2. อนึ่ง ภิกษุณีใด กับบุรุษหนึ่งต่อหนึ่ง ยืนร่วมก็ดี
เจรจาร่วมก็ดี ในสถานที่กำบัง เป็นปาจิตตีย์

เรื่องภิกษุณีอันเตวาสินีของพระภัททากาปิลานีเถรี จบ

สิกขาบทวิภังค์


[189] บทว่า อนึ่ง. . .ใด ความว่าผู้ใด คือ ผู้เช่นใด. . .
บทว่า ภิกษุณี ความว่า ที่ชื่อว่า ภิกษุณี เพราะอรรถว่าเป็นผู้
ขอ. . . นี้ชื่อว่า ภิกษุณี ที่ทรงประสงค์ในอรรถนี้.
ที่ชื่อว่า สถานที่กำบัง ได้แก่ สถานที่ที่เขาบังด้วยฝา บานประตู
ลำแพน ม่าน ต้นไม้ เสา หรือฉางข้าว อย่างใดอย่างหนึ่ง.
ที่ชื่อว่า บุรุษ ได้แก่ มนุษย์ผู้ชาย มิใช่ยักษ์ผู้ชาย มิใช่เปรตผู้ชาย
มิใช่สัตว์ดิรัจฉานตัวผู้ เป็นบุคคลผู้รู้ความ เป็นผู้สามารถ จะยืนร่วม เจรจา
ร่วมได้.
บทว่า กับ คือ ด้วยกัน.
คำว่า หนึ่งต่อหนึ่ง คือ บุรุษผู้หนึ่ง และภิกษุณีรูปหนึ่ง.
บทว่า ยินร่วมก็ดี คือ ยืนอยู่ในระยะช่วงแขนของบุรุษ ต้องอาบัติ-
ปาจิตตีย์.
บทว่า เจรจาร่วมก็ดี คือ เจรจาอยู่ในระยะช่วงแขนของบุรุษ
ต้องอาบัติปาจิตตีย์.

ยืนร่วมหรือเจรจาร่วม พ้นช่วงระยะแขน ต้องอาบัติทุกกฏ.
ยืนร่วมหรือเจรจาร่วมกับยักษ์ผู้ชาย เปรตผู้ชาย บัณเฑาะก์ หรือ
สัตว์ดิรัจฉานตัวผู้มีร่างกายคล้ายมนุษย์ ต้องอาบัติทุกกฏ.

อนาปัตติวาร


[190] มีสตรีผู้รู้ความคนใดคนหนึ่งอยู่เป็นเพื่อน 1 ไม่เพ่งที่ลับยืน
ร่วมหรือเจรจาร่วม 1 ส่งใจไปอื่น ยืนร่วมหรือเจรจาร่วม 1 วิกลจริต 1
อาทิกัมมิกา 1 ไม่ต้องอาบัติแล.
อันธการวรรค สิกขาบทที่ 2 จบ

อรรถกถาอันธการวรรค สิกขาบทที่ 2


วินิจฉัยในสิกขาบทที่ 2 พึงทราบดังนี้ :-
เฉพาะคำว่า ปฏิจฺฉนฺเน โอกาเส (สถานที่กำบัง) นี้เท่านั้น
ต่างกัน. บทที่เหลือทั้งหมด เป็นอันเดียวกับสิกขาบทก่อนนั่นแล.
อรรถกถาอันธการวรรค สิกขาบทที่ 2 จบ