เมนู

ทุกะทุกกฏ


มิใช่กัปปิยภัณฑ์ที่เขาถวายไว้เพื่อเป็นมูลค่าปัจจัยอย่างหนึ่ง ภิกษุณี
สำคัญว่า เขาถวายไว้เพื่อเป็นมูลค่าปัจจัยอย่างหนึ่ง ต้องอาบัติทุกกฏ.
มิใช่กัปปิยภัณฑ์ที่เขาถวายไว้เพื่อเป็นมูลค่าปัจจัยอย่างหนึ่ง ภิกษุณี
สงสัย ต้องอาบัติทุกกฏ.

ไม่ต้องอาบัติ


มิใช่กัปปิยภัณฑ์ที่เขาถวายไว้เพื่อเป็นมูลค่าปัจจัยอย่างหนึ่ง ภิกษุณี
สำคัญว่า เขามิได้ถวายไว้เพื่อเป็นมูลค่าปัจจัยอย่างหนึ่ง ไม่ต้องอาบัติ.

อนาปัตติวาร


[133] ภิกษุณีน้อมกัปปิยภัณฑ์ที่เหลือไป 1 ขออนุญาตต่อเจ้าของ
แล้วน้อมไป 1 มีอันตราย 1 วิกลจริต 1 อาทิกัมมิกา 1 ไม่ต้องอาบัติแล.
ปัตตวรรค สิกขาบทที่ 9 จบ

อรรถกถาปัตตวรรค สิกขาบทที่ 9


วินิจฉัยในสิกขาบทที่ 9 พึงทราบดังนี้ :-
บทว่า สญฺญาจิเกน (ขอมาเป็นส่วนตัว) นี้ เกินกว่า บทว่า
มหาชนิเกน (ที่เขาตั้งใจถวายแก่ภิกษุณีหมู่มาก) นี้ไป.
อรรถกถาปัตตวรรค สิกขาบทที่ 9 จบ

ปัตตวรรค สิกขาบทที่ 10


เรื่องภิกษุณีถุลลนันทา


[134]่ โดยสมัยนั้น พระผู้มีพระภาคพุทธเจ้าประทับอยู่ ณ พระ-
เชตวัน อารามของอนาถบิณฑิกคหบดี เขตพระนครสาวัตถี ครั้งนั้น ภิกษุณี
ถุลลนันทาเป็นพหูสูต ช่างพูด องอาจ สามารถกล่าวถ้อยคำมีหลักฐาน คน
เป็นอันมากต่างพากันเข้าไปสนทนาปราศรัยด้วย ประจวบเวลานั้นบริเวณของ
ภิกษุณีถุลลนันทาชำรุด ชาวบ้านจึงถามภิกษุณีถุลลนันทาว่า แม่เจ้า เพราะ
เหตุไรแม่เจ้าจึงปล่อยให้บริเวณชำรุด.
นางตอบว่า เพราะคนให้ไม่มี คนทำก็ไม่มี.
จึงชาวบ้านพวกนั้นได้รวบรวมสิ่งของเครื่องใช้สอยที่เขาเต็มใจทำบุญ
เพื่อเป็นมูลค่าบริเวณ แล้วถวายเป็นกัปปิยภัณฑ์ไว้แก่ภิกษุณีถุลลนันทา ภิกษุณี
ถุลลนันทาได้ขอให้เปลี่ยนกัปปิยภัณฑ์นั้นแหละ เป็นเภสัช แล้วบริโภคเป็น
ส่วนตัว.
ชาวบ้านเหล่านั้นทราบเรื่องแล้ว พากันเพ่งโทษ ติเตียน โพนทะนา
ว่า ไฉนแม่เจ้าถุลลนันทาจึงได้ให้เปลี่ยนกัปปิยภัณฑ์ที่เขาถวายไว้เพื่อเป็นมูลค่า
ปัจจัยอย่างหนึ่ง อุทิศไว้อย่างหนึ่ง ซึ่งเขาทั้งใจถวายบุคคล มาเป็นปัจจัยอย่าง
อื่นไป ทั้งขอมาเป็นส่วนตัวด้วยเล่า. . .

ทรงสอบถาม
พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงสอบถามภิกษุทั้งหลายว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย
ข่าวว่า ภิกษุณีถุลลนันทาได้ให้เปลี่ยนกัปปิยภัณฑ์ที่เขาถวายไว้เพื่อเป็นมูลค่า