เมนู

มิใช่กัปปิยภัณฑ์ที่เขาถวายไว้เพื่อเป็นมูลค่าปัจจัยอย่างหนึ่ง ภิกษุณี
สงสัย ต้องอาบัติทุกกฏ.

ไม่ต้องอาบัติ


มิใช่กัปปิยภัณฑ์ที่เขาถวายไว้เพื่อเป็นมูลค่าปัจจัยอย่างหนึ่ง ภิกษุณี
สำคัญว่า เขามิได้ถวายไว้เพื่อเป็นมูลค่าปัจจัยอย่างหนึ่ง ไม่ต้องอาบัติ.

อนาปัตติวาร


[129] น้อมกัปปิยภัณฑ์ที่เหลือไป 1 ขออนุญาตต่อเจ้าของแล้วน้อม
ไป 1 มีอันตราย 1 วิกลจริต 1 อาทิกัมมิกา 1 ไม่ต้องอาบัติแล.
ปัตตวรรค สิกขาบทที่ 8 จบ

อรรถกถาปัตตวรรค สิกขาบทที่ 8


วินิจฉัยในสิกขาบทที่ 8 พึงทราบดังนี้:-
บทว่า มหาชนิเกน คือ ที่เขาตั้งใจถวายแก่คณะ (แก่ภิกษุณีหมู่มาก)
บทว่า ที่เขาตั้งใจถวายแก่ภิกษุณีหมู่มากนี้แหละทำให้ต่างกันในสิกขาบทนี้.
อรรถกถาปัตตวรรค สิกขาบทที่ 8 จบ

ปัตตวรรค สิกขาบทที่ 9


เรื่องภิกษุณีหลายรูป


[130] โดยสมัยนั้น พระผู้มีพระภาคพุทธเจ้าประทับอยู่ ณ พระเชตวัน
อารามของอนาถบิณฑิกคหบดี เขตพระนครสาวัตถี ครั้งนั้น ภิกษุณีทั้งหลาย
ผู้อาศัยอยู่ในบริเวณบ้านตำบลหนึ่ง อัตคัดด้วยข้าวยาคู ชาวบ้านตำบลนั้นจึง
ได้รวบรวมเครื่องใช้สอยที่เขาเต็มใจทำบุญเพื่อเป็นมูลค่าข้าวยาคูสำหรับภิกษุณี
ทั้งหลายฝากไว้ที่ร้านชาวตลาดคนหนึ่ง แล้วได้เข้าไปหาภิกษุณีทั้งหลายกล่าว
คำนี้ว่า แม่เจ้าทั้งหลาย เจ้าข้า กัปปิยภัณฑ์เพื่อเป็นมูลค่าข้าวยาคู พวกข้าพเจ้า
ฝากไว้ที่ร้านชาวตลาดชื่อโน้น ขอท่านทั้งหลายจงให้ไวยาวัจกรไปนำข้าวสาร
จากร้านชาวตลาดนั้นมาหุงต้มฉันเถิด.
ภิกษุณีทั้งหลายได้ขอให้เปลี่ยนกัปปิยภัณฑ์นั้นแหละเป็นเภสัชไป
บริโภคเป็นส่วนตัว.
ชาวบ้านตำบลนั้นทราบเรื่องแล้ว พากันเพ่งโทษ ติเตียน โพนทะนา
ว่า ไฉนภิกษุณีทั้งหลายจึงได้ให้ เปลี่ยนกัปปิยภัณฑ์ ที่เขาถวายไว้เพื่อเป็น
มูลค่าปัจจัยอย่างหนึ่ง อุทิศไว้อย่างหนึ่ง ซึ่งเขาตั้งใจถวายแก่ภิกษุณีหมู่มาก
ไปเป็นปัจจัยอย่างอื่น ทั้งขอมาเป็นส่วนตัวด้วยเล่า.
ภิกษุณีทั้งหลายได้ยินชาวบ้านตำบลนั้นพากันเพ่งโทษ ติเตียน โพน-
ทะนาอยู่ บรรดาที่เป็นผู้มักน้อย. . . ต่างก็เพ่งโทษ ติเตียน โพนทะนาว่า
ไฉนภิกษุณีทั้งหลายจึงได้ให้เปลี่ยน กัปปิยภัณฑ์ที่เขาบริจาค ไว้เพื่อเป็น
มูลค่าปัจจัยอย่างหนึ่งอุทิศไว้อย่างหนึ่ง ซึ่งเขาตั้งใจถวายแก่ภิกษุณีหมู่มาก ไป
เป็นปัจจัยอย่างอื่น ทั้งขอมาเป็นส่วนตัวด้วยเล่า . . . แล้วกราบทูลเรื่องนั้นแด่
พระผู้มีพระภาคเจ้า.