เมนู

ทุกะทุกกฏ


มิใช่กัปปิยภัณฑ์ที่เขาถวายไว้เพื่อเป็นมูลค่าปัจจัยอย่างหนึ่ง ภิกษุณี
สำคัญว่าเขาถวายไว้เพื่อเป็นมูลค่าปัจจัยอย่างหนึ่ง. . .ต้องอาบัติทุกกฏ.
มิใช่กัปปิยภัณฑ์ที่เขาถวายไว้เพื่อเป็นมูลค่าปัจจัยอย่างหนึ่ง ภิกษุณี
สงสัย. . . ต้องอาบัติทุกกฏ.

ไม่ต้องอาบัติ


มิใช่กัปปิยภัณฑ์ที่เขาถวายไว้เพื่อเป็นมูลค่าปัจจัยอย่างหนึ่ง ภิกษุณี
สำคัญว่า เขาไม่ได้ถวายไว้เพื่อเป็นมูลค่าปัจจัยอย่างหนึ่ง ไม่ต้องอาบัติ.

อนาปัตติวาร


[121] น้อมกัปปิยภัณฑ์ที่เหลือไป 1 ขออนุญาตจากเจ้าของ แล้ว
น้อมไป 1 มีอันตราย 1 วิกลจริต 1 อาทิกัมมิกา 1 ไม่ต้องอาบัติแล.
ปัตตวรรค สิกขาบทที่ 6 จบ

อรรถกถาปัตตวรรค สิกขาบทที่ 6


วินิจฉัย ในสิกขาบทที่ 6 พึงทราบดังนี้:-
คำว่า ฉนฺทกํ นี้ เป็นชื่อแห่งบริขาร (สิ่งของเครื่องใช้) ที่เขา
ถวายอันก่อให้เกิดความพอใจ และความชอบใจแก่คนเหล่าอื่น แล้วถือเอา
อย่างนี้ว่า พวกเราจักทำกิจชอบธรรม (บุญกรรม) ชื่อนี้ท่านทั้งหลายจงให้
สิ่งของที่พวกท่านอาจจะให้ได้ .

บทว่า อญฺญทตฺถิเกน คือ ที่เขาถวายไว้เพื่อต้องการเป็นมูลค่าแก่
ปัจจัยอย่างหนึ่ง.
บทว่า อญฺญุทฺทิสิเกน คือ ที่เขาถวายเจาะจงไว้อย่างหนึ่ง.
บทว่า สงฺฆิเกน คือ ที่เขาตั้งใจถวายแก่สงฆ์.
สองบทว่า เสสกํ อุปเนติ มีความว่า สั่งให้จ่ายปัจจัยที่เขาถวาย
กัปปิยภัณฑ์ไว้เป็นมูลค่า แล้วน้อมของที่เหลือไปเพื่อประโยชน์แก่ปัจจัยอื่น.
สองบทว่า สามิเก อปโลเกตฺวา มีความว่า ขออนุญาตจากเจ้า
ของแล้วน้อมไปอย่างนี้ว่า พวกท่านถวายกัปปิยภัณฑ์ไว้เพื่อเป็นมูลค่าแห่งจีวร
และจีวรของพวกเรามีอยู่ แต่มีความต้องการด้วยน้ำมันเป็นต้น .
บทว่า อาปทาสุ มีความว่า เพราะอันตรายเช่นนั้น พวกภิกษุณี
พากันทิ้งวัดอพยพหนี ในอันตรายมีรูปเห็นปานนั้น จะแลกเปลี่ยนสิ่งใดสิ่ง
หนึ่ง ควรอยู่. คำที่เหลือ ตื้นทั้งนั้น.
สิกขาบทนี้ มีสมุฏฐาน 6 เป็นทั้งกิริยาทั้งอกิริยา โนสัญญาวิโมกข์
อจิตตกะ ปัณณัตติวัชชะ กายกรรม วจีกรรม มีจิต 3 มีเวทนา 3 ฉะนี้แล.
อรรถกถาปัตตวรค สิกขาบทที่ 6 จบ

ปัตตวรรค สิกขาบทที่ 7


เรื่องภิกษุณีหลายรูป


[122] โดยสมัยนั้น พระผู้มีพระภาคพุทธเจ้าประทับอยู่ ณ พระ-
เชตวัน อารามของอนาถบิณฑิกคหบดี เขตพระนครสาวัตถี ครั้งนั้น พวก
อุบาสกอุบาสิกาพากันรวบรวมสิ่งของเครื่องใช้ที่เขาเต็มใจทำบุญเพื่อเป็นมูลค่า
จีวรสำหรับภิกษุณีสงฆ์ ฝากไว้ที่ร้านพ่อค้าคนหนึ่ง แล้วได้เข้าไปหาภิกษุณี
ทั้งหลายกล่าวคำนี้ว่า แม่เจ้าทั้งหลาย เจ้าข้า กัปปิยภัณฑ์เพื่อเป็นมูลค่าจีวร
พวกข้าพเจ้าฝากไว้ที่ร้านพ่อค้าผ้าชื่อโน้น ขอท่านทั้งหลายกรุณาให้ไวยาวัจกร
ไปนำจีวรจากร้านพ่อค้าผ้าผู้นั้นมาแจกกันเถิด เจ้าข้า.
ภิกษุณีทั้งหลายได้ขอให้เปลี่ยนกัปปิยภัณฑ์นั้นแหละเป็นเภสัชไปบริ-
โภคเป็นส่วนตัว.
อุบาสกอุบาสิกาทั้งหลายทราบเรื่องแล้วพากันเพ่งโทษ ติเตียน โพน-
ทะนาว่า ไฉนภิกษุณีทั้งหลายจึงได้ให้เปลี่ยนกัปปิยภัณฑ์ที่เขาถวายไว้เพื่อเป็น
มูลค่าปัจจัยอย่างหนึ่ง อุทิศไว้อย่างหนึ่ง ซึ่งเขาตั้งใจถวายสงฆ์ ไปเป็นปัจจัย
อย่างอื่น ทั้งขอมาเป็นส่วนตัวด้วยเล่า.
ภิกษุณีทั้งหลายได้ยินอุบาสกอุบาสิกาเหล่านั้นเพ่งโทษ ติเตียน โพน-
ทะนาอยู่ บรรดาที่เป็นผู้มักน้อย. . . ต่างก็เพ่งโทษติเตียนโพนทะนาว่า ไฉน
ภิกษุณีทั้งหลายจึงได้ให้เปลี่ยนกัปปิยภัณฑ์ที่เขาถวายไว้เพื่อเป็นมูลค่าปัจจัยอย่าง
หนึ่ง อุทิศไว้อย่างหนึ่ง ซึ่งเขาตั้งใจถวายสงฆ์ ไม่เป็นปัจจัยอย่างอื่น ทั้ง
ขอมาเป็นส่วนตัวด้วยเล่า . . .