เมนู

ภิกษุณีทั้งหลายได้ยินอุบาสกนั้นเพ่งโทษ ติเตียน โพนทะนาอยู่
บรรดาที่เป็นผู้มักน้อย . . . ต่างก็เพ่งโทษ ติเตียน โพนทะนาว่า ไฉนแม่เจ้า
ถุลลนันทาออกปากขอของอย่างหนึ่งได้แล้ว จึงได้ออกปากขอของอย่างอื่นอีก
เล่า แล้วได้แจ้งเรื่องนั้นแก่ภิกษุทั้งหลาย ๆ ได้กราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มี-
พระภาคเจ้า.

ทรงสอบถาม


พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงสอบถามภิกษุทั้งหลายว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย
ข่าวว่า ภิกษุณีถุลลนันทาออกปากขอของอย่างหนึ่งได้แล้ว ออกปากขอของ
อย่างอื่นอีก จริงหรือ.
ภิกษุทั้งหลายกราบทูลว่า จริง พระพุทธเจ้าข้า.

ทรงติเตียนแล้วบัญญัติสิกขาบท


พระผู้มีพระภาคพุทธเจ้าทรงติเตียนว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ไฉน
ภิกษุณีถุลลนีนทาออกปากขอของอย่างหนึ่งได้แล้ว จึงได้ออกปากขอของอย่าง
อื่นอีกเล่า การกระทำของนางนั่น ไม่เป็นไปเพื่อความเลื่อมใสของชุมชนที่ยัง
ไม่เลื่อมใส. . .
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็แลภิกษุณีทั้งหลายจงยกสิกขาบทนี้ขึ้นแสดง
อย่างนี้ ว่าดังนี้ :-

พระบัญญัติ


29. 4. อนึ่ง ภิกษุณีใด ออกปากขอของอย่างหนึ่งได้แล้ว
พึงออกปากขอของอย่างอื่นอีก เป็นนิสสัคคิยปาจิตตีย์.

เรื่องภิกษุณีถุลลนันทา จบ