เมนู

ความพระพฤติทราม ด้วยกล่าวกระทบคำด่าอุกฤษฏ์ คือพูดกะอุปสัมบันผู้มี
ความประพฤติดังอูฐ . . . มีความประพฤติดังแพะ . . .มีความประพฤติดังโค
. . .มีความประพฤติดังลา . . .มีความพระพฤติดังสัตว์ดิรัจฉาน . . .มีความ
ประพฤติดังสัตว์นรก ว่าท่านเป็นบัณฑิต ว่าท่านเป็นคนฉลาด ว่าท่านเป็น
คนมีปัญญา ว่าท่านเป็นพหูสูต ว่าท่านเป็นธรรมกถึก ทุคติของท่านไม่มี
ท่านต้องหวังได้แต่สุคติ ดังนี้เป็นต้น ต้องอาบัติทุพภาสิต ทุก ๆ คำพูด

พูดล้อยกยอกระทบคำสบประมาท


อุปสัมบันไม่ปรารถนาจะด่า ไม่ปรารถนาจะสบประมาทอุปสัมบัน ไม่
ปรารถนาจะทำให้อัปยศ แต่มีความประสงค์จะล้อเล่น จึงพูดกะอุปสัมบันผู้มี
ความพระพฤติอุกฤษฎ์ ด้วยกล่าวกระทบคำด่าอุกฤษฎ์ คือ พูดกะอุปสัมบันผู้
เป็นบัณฑิต . . . ผู้ฉลาด . . . ผู้มีปัญญา . . . ผู้พหูสูต . .. ผู้ธรรมกถึก ว่าท่าน
เป็นบัณฑิต ว่าท่านเป็นคนฉลาด ว่าท่านเป็นคนมีปัญญา ว่าท่านเป็นพหูสูต
ว่าท่านเป็นธรรมกถึก ทุคติของท่านไม่มี ท่านต้องหวังได้แต่สุคติ ดังนี้เป็นต้น
ต้องอาบัติทุพภาสิต ทุก ๆ คำพูด.

พูดล้อเปรยกระทบชาติทราม ว่ามีบางพวก


[247] อุปสัมบันไม่ปรารถนาจะด่า ไม่ปรารถนาจะสบประมาทอุป-
สัมบัน ไม่ปรารถนาจะทำให้อัปยศ แต่มีความประสงค์จะล้อเล่น จึงพูดเปรย
อย่างนี้คือ กล่าวว่ามีภิกษุในพระธรรมวินัยนี้ บางพวกเป็นชาติคนจัณฑาล บาง
พวกเป็นชาติคนจักสาน บางพวกเป็นชาติพราน บางพวกเป็นชาติคนช่างหนัง
บางพวกเป็นชาติคนเทดอกไม้ ดังนี้เป็นต้น ต้องอาบัติทุพภาสิต ทุก ๆ คำพูด.

พูดล้อเปรยกระทบชาติอุกฤษฏ์ ว่ามีบางพวก


อุปสันบันไม่ปรารถนาจะด่า ไม่ปรารถนาจะสบประมาทอุปสัมบัน ไม่
ปรารถนาจะทำให้อัปยศ แต่มีความประสงค์จะล้อเล่น จึงพูดเปรยอย่างนั้น คือ