ทุพภาสิต ว่าท่านต้องอาบัติปาราชิก ว่าท่านต้องอาบัติสังฆาทิเสส ว่าท่านต้อง
อาบัติถุลลัจจัย ว่าท่านต้องอาบัติปาจิตตีย์ ว่าท่านต้องอาบัติปาฏิเทสนียะ ว่า
ท่านต้องอาบัติทุกกฏ ว่าท่านต้องอาบัติทุพภาสิต ดังนี้ ต้องอาบัติทุพภาสิต
ทุก ๆ คำพูด.
พูดล้อกดให้เลวกระทบอาบัติ
อุปสัมบันไม่ปรารถนาจะด่า ไม่ปรารถนาจะสบประมาทอุปสัมบัน ไม่
ปรารถนาจะทำให้อัปยศ แต่มีความประสงค์จะล้อเล่น จึงพูดกะอุปสัมบันผู้
ต้องอาบัติอุกฤษฎ์ ด้วยกล่าวกระทบอาบัติทราม คือ พูดกะอุปสัมบันผู้ต้อง
โสดาบัติ ว่าท่านต้องอาบัติปาราชิก ว่าท่านต้องอาบัติสังฆาทิเสส ว่าท่านต้อง
อาบัติถุลลัจจัย ว่าท่านต้องอาบัติปาจิตตีย์ ว่าท่านไม่ต้องปาฏิเทสนียะ ว่า
ท่านต้องอาบัติทุกกฏ ว่าท่านต้องอาบัติทุพภาสิต ดังนี้ ต้องอาบัติทุพภาสิต
ทุก ๆ คำพูด.
พูดล้อประชดกระทบอาบัติ
อุปสัมบันไม่ปรารถนาจะด่า ไม่ปรารถนาจะสบประมาทอุปสัมบัน ไม่
ปรารถนาจะทำให้อัปยศ แต่มีความประสงค์จะล้อเล่น จึงพูดกะอุปสัมบันผู้
ต้องอาบัติทราม ด้วยกล่าวกระทบอาบัติอุกฤษฎ์ คือพูดกะอุปสัมบันผู้ต้อง
อาบัติปาราชิก . . . ผู้ต้องอาบัติสังฆาทิเสส . . .ผู้ต้องอาบัติถุลลัจจัย . . . ผู้ต้อง
อาบัติปาจิตตีย์ . . .ผู้ต้องอาบัติปาฏิเทสนียะ . . .ผู้ต้องอาบัติทุกกฏ . . .ผู้ต้อง
อาบัติทุพภาสิต ว่าท่านต้องโสดาบัติ ดังนี้เป็นต้น ต้องอาบัติทุพภาสิต ทุก ๆ
คำพูด.
พูดล้อยกยอกระทบอาบัติ
อุปสัมบันไม่ปรารถนาจะด่า ไม่ปรารถนาจะสบประมาทอุปสัมบัน ไม่
ปรารถนาจะทำให้อัปยศ แต่มีความประสงค์จะล้อเล่น จึงพูดกะอุปสัมบันผู้