เมนู

พระบัญญัติ


173. 28. ภิกษุพึงทำความศึกษาว่า เราจักจ้องในบาตร
รับบิณฑบาต.

สิกขาบทวิภังค์


อันภิกษุพึงแลดูบาตรรับบิณฑบาต ภิกษุใดอาศัยความไม่เอื้อเฟื้อ
รับบิณฑบาตพลางเหลียวแลไปในที่นั้น ๆ ต้องอาบัติทุกกฏ.

อนาปัตติวาร


ไม่แกล้ง 1 เผลอ 1 ไม่รู้ตัว 1 อาพาธ 1 มีอันตราย 1 วิกลจริต 1
อาทิกัมมิกะ 1 ไม่ต้องอาบัติแล.
ขันภกตวรรค สิกขาบทที่ 8 จบ

ขันภกตวรรค สิกขาบทที่ 9


[828] สาวัตถีนิทาน. ครั้งนั้น พระฉัพพัคคีย์รับบิณฑบาต รับ
แต่สูปะเป็นส่วนมาก . . .

พระบัญญัติ


174. 29. ภิกษุพึงทำความศึกษาว่า เราจักรับบิณฑบาตมี
สูปะเสมอกัน.

สิกขาบทวิภังค์


ที่ชื่อว่า สูปะ มีสองชนิด คือ สูปะทำด้วยถั่วเขียว 1 สูปะทำด้วย
ถั่วเหลือง 1 ที่จับได้ด้วยมือ.
อันภิกษุพึงรับบิณฑบาตมีสูปะพอสมกัน ภิกษุใดอาศัยความไม่เอื้อเฟื้อ
รับแต่สูปะอย่างเดียวเป็นส่วนมาก ต้องอาบัติทุกกฏ.

อนาปัตติวาร


ไม่แกล้ง 1 เผลอ 1 ไม่รู้ตัว 1 อาพาธ 1 รับกับข้าวต่างอย่าง 1
รับของญาติ 1 รับของผู้ปวารณา 1 รับเพื่อประโยชน์แก่ภิกษุอื่น 1 จ่ายมา
ด้วยทรัพย์ของตน 1 มีอันตราย 1 วิกลจริต 1 อาทิกัมมิกะ 1 ไม่ต้อง
อาบัติแล.
ขันภกตวรรค สิกขาบทที่ 9 จบ

ขันภกตวรรค สิกขาบทที่ 10


[829] สาวัตถีนิทาน. ครั้งนั้น พระฉัพพัคคีย์รับบิณฑบาตถึงล้น
บาตร...

พระบัญญัติ


175. 30. ภิกษุพึงทำความศึกษาว่า เราจักรับบิณฑบาตจด
เสมอขอบบาตร.

สิกขาบทวิภังค์


อันภิกษุพึงรับบิณฑบาตเสมอขอบปากบาตร ภิกษุใดอาศัยความไม่
เอื้อเฟื้อ รับบิณฑบาตจนล้น ต้องอาบัติทุกกฏ.

อนาปัตติวาร


ไม่แกล้ง 1 เผลอ 1 ไม่รู้ตัว 1 มีอันตราย 1 วิกลจริต 1 อาทิกัม-
มิกะ 1 ไม่ต้องอาบัติแล.
ขันภกตวรรค สิกขาบทที่ 10 จบ
วรรคที่ 3 จบ