เมนู

ทรงติเตียนแล้วบัญญัติสิกขาบท


พระผู้มีพระภาคพุทธเจ้าทรงติเตียนว่า ดูก่อนโมฆบุรุษทั้งหลาย
ไฉนพวกเธอจึงได้นุ่งผ้าเลื้อยหน้าบ้าง เลื้อยหลังบ้างเล่า การกระทำของพวก
เธอนั่นไม่เป็นไปเพื่อความเลื่อมใสของชุมชนที่ยังไม่เลื่อมใส หรือเพื่อความ
เลื่อมใสยิ่งของชุมชนที่เลื่อมใสแล้ว. . .
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็แลพวกเธอพึงยกสิกขาบทนี้ขึ้นแสดงอย่างนี้ ว่า
ดังนี้:-
146. 1. ภิกษุพึงทำความศึกษาว่า เราจะนุ่งเป็นปริมณฑล.

สิกขาบทวิภังค์


อันภิกษุนุ่งปิดมณฑลสะดือ มณฑลเข่า ชื่อว่านุ่งเป็นปริมณฑล
ภิกษุใดอาศัยความไม่เอื้อเฟื้อ นุ่งผ้าเลื้อยหน้าหรือเลื้อยหลัง ต้อง
อาบัติทุกกฏ.

อนาปัตติวาร


ไม่แกล้ง 1 ไม่มีสติ 1 ไม่รู้ตัว 1 อาพาธ 1 มีอันตราย 1 วิกลจริต 1
อาทิกัมมิกะ 1 ไม่ต้องอาบัติแล.
ปริมัณฑลวรรค สิกขาบทที่ 1 จบ

ปริมัณฑลวรรค สิกขาบทที่ 1 จบ


[801] สาวัตถีนิทาน.1 ครั้งนั้น พระฉัพพัคคีย์ห่มผ้าเลื้อยหน้าบ้าง
เลื้อยหลังบ้าง...2
1. บาลีว่า สาวัตถีนิทาน เห็นอยู่ในที่ใด ในที่นั้นมีบาลีแปลว่า โดยสมัยนั้น พระผู้มีพระภาค
พุทธเจ้าประทับอยู่ ณ พระเชตวัน อารามของอนาถบิณฑิกคหบดี เขตพระนครสาวัตถี ดังนี้ 2.
หมายว่ามีเนื้อความดังสิกขาบทที่ 1

พระบัญญัติ


147. 2. ภิกษุพึงทำความศึกษาว่า เราจักห่มเป็นปริมณฑล.

สิกขาบทวิภังค์


อันภิกษุห่มทำมุมทั้งสองให้เสมอกัน ชื่อว่าห่มเป็นปริมณฑล ภิกษุ
ใดอาศัยความไม่เอื้อเฟื้อ ห่มผ้าเลื้อยหน้าเลื้อยหลัง ต้องอาบัติทุกกฏ.

อนาปัตติวาร


ไม่แกล้ง 1 เผลอ 1 ไม่รู้ตัว 1 อาพาธ 1 มีอันตราย 1วิกลจริต 1 อาทิ
กัมมิกะ 1 ไม่ต้องอาบัติแล.
ปริมัณฑลวรรค สิกขาบทที่ 2 จบ

ปริมัณฑลวรรค สิกขาบทที่ 3


[802] สาวัตถีนิทาน. โดยสมัยนั้น พระผู้มีพระภาคพุทธเจ้า
ประทับอยู่ ณ พระเชตวัน อารามของอนาถบิณฑิกคหบดี เขตพระนคร
สารวัตถี ครั้งนั้น พระฉันพัคคีย์เดินเปิดกายไปในละแวกบ้าน. . .

พระบัญญัติ


148 . 3. ภิกษุพึงทำความศึกษาว่า เราจักปกปิดกายดี ไป
ในละแวกบ้าน.

สิกขาบทวิภังค์


อันภิกษุพึงปิดกายด้วยดีไปในละแวกบ้าน ภิกษุใดอาศัยความไม่เอื้อ-
เฟื้อเดินเปิดกายไปในละแวกบ้าน ต้องอาบัติทุกกฏ