เมนู

พระบัญญัติ


142. 1. อนึ่ง ภิกษุใด รับของเคี้ยวก็ดี ของฉันก็ดี ด้วย
มือของตน จากมือของภิกษุณี ผู้มิใช่ญาติ ผู้เข้าไปแล้วสู่ละแวกบ้าน
แล้วเคี้ยวก็ดี ฉันก็ดี อันภิกษุนั้นพึงแสดงคืนว่า แนะเธอ ฉันต้อง
ธรรมที่น่าติ ไม่เป็นที่สบาย ควรจะแสดงคืน ฉันแสดงคืนธรรมนั้น.
เรื่องภิกษุณีรูปหนึ่ง จบ

สิกขาบทวิภังค์


[782] บทว่า อนึ่ง. . .ใด ความว่า ผู้ใด คือ ผู้เช่นใด. . .
บทว่า ภิกษุ ความว่า ที่ชื่อว่า ภิกษุ เพราะอรรถว่าเป็นผู้ขอ. . .
นี้ชื่อว่า ภิกษุ ที่ทรงประสงค์ในอรรถนี้.
ที่ชื่อว่า ผู้มิใช่ญาติ คือ ไม่ใช่คนเนื่องถึงกันทางมารดาก็ดี ทาง
บิดาก็ดี ตลอดเจ็ดชั่วบุรพชนก.
ที่ชื่อว่า ภิกษุณี ได้แก่ สตรีผู้อุปสมบทแล้วในสงฆ์สองฝ่าย.
ที่ชื่อว่า ละแวกบ้าน ได้แก่ ถนน ตรอกตัน ทางสามแยก เรือน
ตระกูล.
ที่ชื่อว่า ของเคี้ยว คือ ยกโภชนะทั้งห้า ยามกาลิก สัตตาหกาลิก
และยาวชีวิก นอกจากนี้ชื่อว่าของเคี้ยว.
ที่ชื่อว่า ของฉัน ได้แก่ โภชนะทั้งห้า คือ ข้าวสุก 1 ขนมสด 1
ขนมแห้ง 1 ปลา 1 เนื้อ 1.
ภิกษุรับประเคนไว้ด้วยหมายใจว่า จักเคี้ยว จักฉัน ต้องอาบัติทุกกฏ
กลืน ต้องอาบัติปาฏิเทสนียะ ทุก ๆ คำกลืน.

บทภาชนีย์


ติกปาฏิเทสนียะ


ภิกษุณีผู้มิใช่ญาติ ภิกษุสำคัญว่ามิใช่ญาติ รับของเคี้ยวก็ดี ของฉัน
ก็ดี ด้วยมือของตน จากมือของภิกษุณีผู้มีใช่ญาติ ผู้เข้าไปแล้วสู่ละแวกบ้าน
แล้วเคี้ยวก็ดี ฉันก็ดี ต้องอาบัติปาฏิเทสนียะ.
ภิกษุณีผู้มีใช่ญาติ ภิกษุสงสัยอยู่ รับของเคี้ยวก็ดี ของฉันก็ดี ด้วย
มือของตนจากมือของภิกษุณีผู้มีใช่ญาติ ผู้เข้าไปแล้วสู่ละแวกบ้าน แล้วเคี้ยวก็ดี
ฉันก็ดี ต้องอาบัติปาฎิเทสนียะ.
ภิกษุณีผู้มีใช่ญาติ ภิกษุสำคัญว่าเป็นญาติ รับของเคี้ยวก็ดี ของฉัน
ก็ดี ด้วยมือของตน จากมือของภิกษุณีผู้มีใช่ญาติ. ผู้เข้าไปแล้วสู่ละแวกบ้าน
แล้วเคี้ยวก็ดี ฉันก็ดี ต้องอาบัติปาฎิเทสนียะ.

จตุกทุกกฏ


ภิกษุรับของที่เป็นยามกาลิก สัตตาหกาลิก ยาวชีวิก เพื่อทำเป็น
อาหาร ต้องอาบัติทุกกฏ กลืน ต้องอาบัติทุกกฏ ทุก ๆ คำกลืน.
ภิกษุรับ . . . จากมือของภิกษุณีผู้อุปสมบทแล้วในสงฆ์ฝ่ายเดียว ด้วย
ตั้งใจว่า จักเคี้ยว จักฉัน ต้องอาบัติทุกกฏ กลืน ต้องอาบัติทุกกฏ ทุก ๆ คำ
กลืน.
ภิกษุณีผู้เป็นญาติ ภิกษุสำคัญว่ามิใช่ญาติ . . .ต้องอาบัติทุกกฏ.
ภิกษุณีผู้เป็นญาติ ภิกษุสงสัยอยู่ . . .ต้องอาบัติทุกกฏ.

ไม่ต้องอาบัติ


ภิกษุณีผู้เป็นญาติ ภิกษุสำคัญว่าเป็นญาติ. . .ไม่ต้องอาบัติ.