เมนู

. . . ภารทวาชโคตร ว่าท่านโคตมโคตร ว่าท่านโมคคัลลานโคตร ว่าท่าน
กัจจายนโคตร ว่าท่านวาเสฏฐโคตร ดังนี้เป็นต้น ต้องอาบัติทุพภาสิต ทุก ๆ
คำพูด.

พูดล้อยกยอกระทบโคตร


อุปสัมบันไม่ปรารถนาจะด่า ไม่ปรารถนาจะสบประมาทอุปสัมบัน ไม่
ปรารถนาจะทำให้อัปยศ แต่มีความประสงค์จะล้อเล่น จึงพูดกะอุปสัมบันมี
โครตอุกฤษฎ์ ด้วยกล่าวกระทบโคตรอุกฤษฏ์ คือพูดกะอุปสัมบัน โคตมโคตร
. . .โมคคัลลานโคตร. . . กัจจายนโคตร . . .วาเสฎฐโคตร ว่าท่านโคตมโคตร
ว่าท่านโมคคัลลานโคตร ว่าท่านกัจจายนโคตร ว่าท่านวาเสฏฐโคตร ดังนี้
เป็นต้น ต้องอาบัติทุพภาสิต ทุก ๆ คำพูด.

พูดล้อกดกระทบการงาน


อุปสัมบันไม่ปรารถนาจะด่า ไม่ปรารถนาจะสบประมาทอุปสัมบัน ไม่
ปรารถนาจะทำให้อัปยศ แต่มีความประสงค์จะล้อเล่น จึงพูดกะอุปสัมบันมี
การงานทราม ด้วยกล่าวกระทบการงานทราม คือพูดกะอุปสัมบันเป็นช่างไม้
. . .เป็นคนเทดอกไม้ ว่าท่านทำงานช่างไม้ ว่าท่านทำงานเทดอกไม้ ดังนี้
เป็นต้น ต้องอาบัติทุพภาสิต ทุก ๆ คำพูด.

พูดล้อกดให้เลวกระทบการงาน


อุปสัมบันไม่ปรารถนาจะด่า ไม่ปรารถนาจะสบประมาทอุปสัมบัน ไม่
ปรารถนาจะทำให้อัปยศ แต่มีความประสงค์จะล้อเล่น จึงพูดกะอุปสัมบันมี
การงานอุกฤษฏ์ ด้วยกล่าวกระทบการงานทราม คือพูดกะอุปสัมบันเป็นชาวนา
. . .เป็นพ่อค้า . . . เป็นคนเลี้ยงโค . . . ว่าท่านทำงานช่างไม้ ว่าท่านทำงาน
เทดอกไม้ ดังนี้เป็นต้น ต้องอาบัติทุพภาสิต ทุก ๆ คำพูด.

พูดล้อประชดกระทบการงาน


อุปสัมบันไม่ปรารถนาจะด่า ไม่ปรารถนาจะสบประมาทอุปสัมบัน ไม่
ปรารถนาจะทำให้อัปยศ แต่มีความประสงค์จะล้อเล่น จึงพูดกะอุปสันบันมี
การงานทราม ด้วยกล่าวกระทบการงานอุกฤษฎ์ คือ พูดกะอุปสัมบันเป็น
ช่างไม้ . . . เป็นคนเทดอกไม้ ว่าท่านทำงานไถนา ว่าท่านทำงานค้าขาย ว่าท่าน
ทำงานเลี้ยงโค ดังนี้เป็นต้น ต้องอาบัติทุพภาสิต ทุก ๆ คำพูด

พูดล้อยกยอกระทบการงาน


อุปสัมบันไม่ปรารถนาจะด่า ไม่ปรารถนาจะสบประมาทอุปสัมบัน ไม่
ปรารถนาจะทำให้อัปยศ แต่มีความประสงค์จะล้อเล่น จึงพูดกะอุปสัมบันมี
การงานอุกฤษฏ์ ด้วยกล่าวกระทบการงานอุกฤษฏ์ คือ พูดกะอุปสัมบันเป็น
ชาวนา . . . เป็นพ่อค้า . .เป็นคนเลี้ยงโค ว่าท่านทำงานไถนา ว่าท่านทำงาน
ค้าขาย ว่าท่านทำงานเลี้ยงโค ดังนี้เป็นต้น ต้องอาบัติทุพภาสิต ทุก ๆ คำพูด

พูดล้อกดกระทบศิลป


อุปสัมบันไม่ปรารถนาจะด่า ไม่ปรารถนาจะสบประมาทอุปสัมบัน ไม่
ปรารถนาจะทำให้อัปยศ แต่มีความประสงค์จะล้อเล่น จึงพูดกะอุปสัมบันมี
วิชาการช่างทราม ด้วยกล่าวกระทบวิชาการช่างทราม คือ พูดกะอุปสัมบันมี
วิชาการช่างจักสาน . . . มีวิชาการช่างหม้อ . . . มีวิชาการช่างหูก . . . มีวิชาการ
ช่างหนัง . . .มีวิชาการช่างกัลบก ว่าท่านมีวิชาการช่างจักสาน ว่าท่านมี
วิชาการช่างหม้อ ว่าท่านมีวิชาการช่างหูก ว่าท่านมีวิชาการช่างหนัง ว่าท่าน
มีวิชาการช่างกัลบก ดังนี้เป็นต้น ต้องอาบัติทุพภาสิต ทุก ๆ คำพูด