เมนู

คำว่า ภายหลังถึงธรรมคือบ่น ความว่า เมื่อให้จีวรแก่อุปสัมบัน
ที่สงฆ์สมมติให้เป็นผู้จัดเสนาสนะก็ดี ให้เป็นผู้แจกอาหารก็ดี ให้เป็นผู้แจก
ยาคูก็ดี ให้เป็นผู้แจกผลไม้ก็ดี ให้เป็นผู้แจกของเคี้ยวก็ดี ให้เป็นผู้แจกของ
เล็กน้อยก็ดี แล้วบ่น ต้องอาบัติปาจิตตีย์.

บทภาชนีย์


ติกปาจิตตีย์


[725] กรรมเป็นธรรม ภิกษุสำคัญว่ากรรมเป็นธรรม เมื่อให้จีวร
แล้วบ่น ต้องอาบัติปาจิตตีย์.
กรรมเป็นธรรม ภิกษุสงสัย เมื่อให้จีวรแล้ว บ่น ต้องอาบัติปาจิตตีย์.
กรรมเป็นธรรม ภิกษุสำคัญว่ากรรมไม่เป็นธรรม เมื่อให้จีวรแล้ว
บ่น ต้องอาบัติปาจิตตีย์.

ทุกกฏ


ให้บริขารอย่างอื่นแล้ว บ่น ต้องอาบัติทุกกฏ.
ให้จีวรหรือบริขารอย่างอื่นแก่อุปสัมบัน ผู้ที่สงฆ์ไม่ได้สมมติให้เป็นผู้
จัดเสนาสนะ ให้เป็นผู้แจกอาหาร ให้เป็นผู้แจกยาคู ให้เป็นผู้แจกผลไม้ ให้
เป็นผู้แจกของเคี้ยว หรือให้เป็นผู้แจกของเล็กน้อย แล้วบ่น ต้องอาบัติทุกกฏ.
เมื่อให้จีวรหรือบริขารอย่างอื่นแก่อนุปสัมบันผู้ที่สงฆ์สมมติก็ดี ไม่ได้
สมมติก็ดี ให้เป็นผู้จัดเสนาสนะ ให้เป็นผู้แจกอาหาร ให้เป็นผู้แจกยาคู ให้
เป็นผู้แจกผลไม้ ให้เป็นผู้แจกของเคี้ยว หรือให้เป็นผู้แจกของเล็กน้อยแล้ว
บ่น ต้องอาบัติทุกกฏ.

กรรมไม่เป็นธรรม ภิกษสำคัญว่ากรรมเป็นธรรม. . .ต้องอาบัติทุกกฏ.
กรรมไม่เป็นธรรม ภิกษุมีความสงสัย. . .ต้องอาบัติทุกกฏ.
กรรมไม่เป็นธรรม ภิกษุสำคัญว่ากรรมไม่เป็นธรรม . . . ต้องอาบัติ
ทุกกฏ.

อนาปัตติวาร


[726] ภิกษุบ่นว่าสงฆ์มีปรกติทำโดยฉันทาคติ. . .โทสาคติ. . .โมหา-
คติ ...ภยาคติ จะประโยชน์อะไรด้วยจีวรที่ให้แล้วแก่ภิกษุนั้น แม้เธอได้ไป
แล้วก็จักทิ้งเสีย จักไม่ใช้สอยโดยชอบธรรม 1 ภิกษุวิกลจริต 1 ภิกษุอาทิกัม-
มิกะ 1 ไม่ต้องอาบัติแล.
สหธรรมิกวรรค สิกขาบทที่ 11 จบ

ทัพพสิกขาบทที่ 11


วินิจฉัยในสิกขาบทที่ 11 พึงทราบดังนี้:-
บทว่า ยถามิตฺตตา คือ ตามความเป็นมิตรกัน. มีคำอธิบายว่าให้
แก่ภิกษุผู้ซึ่งเป็นมิตรกัน . ในบททั้งปวงก็นัยนี้เหมือนกัน. คำที่เหลือมีเนื้อความ.
ตื้นทั้งนั้น เพราะมีนัยดังกล่าวแล้วในอุชฌาปนกสิกขาบทเป็นต้นนั้นแล.
สิกขาบทนี้ มีสมุฏฐาน 3 เป็นกิริยา สัญญาวิโมกข์ สจิตตกะ โลก
วัชชะ กายกรรม วจีกรรม อกุศลจิต เป็นทุกขเวทนา ดังนี้แล.
ทัพพสิกขาบทที่ 11 จบ