เมนู

อเจลกวรรค สิกขาบทที่ 9


เรื่องพระฉัพพัคคีย์


[567] โดยสมัยนั้น พระผู้มีพระภาคพุทธเจ้าประทับอยู่ ณ พระ-
เชตวัน อารามของอนาถบิณฑิกคหบดี เขตพระนครสาวัตถี ครั้งนั้น พระ-
ฉัพพัคคีย์มีกิจจำเป็นเดินผ่านกองทัพไป แล้วแรมคืนอยู่ในกองทัพ 3 ราตรี
ประชาชนพากันเพ่งโทษติเตียนโพนทะนาว่า ไฉน พระสมณะเชื้อสายพระ-
ศากยบุตรจึงได้พักแรมอยู่ในกองทัพเล่า มิใช่ลาภของพวกเรา แม้พวกเราที่มา
อยู่ในกองทัพ เพราะเหตุแห่งอาชีพ เพราะเหตุแห่งบุตรภรรยา ก็ได้ไม่ดีแล้ว
ภิกษุทั้งหลายได้ยินประชาชนเหล่านั้นเพ่งโทษติเตียนโพนทะนาอยู่
บรรดาที่เป็นผู้มักน้อย ...ต่างก็เพ่งโทษติเตียนโพนทะนาว่าไฉนพระฉัพพัคคีย์
จึงได้พักแรมอยู่ในกองทัพเกิน 3 ราตรีเล่า แล้วกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มี-
พระภาคเจ้า . . .

ทรงสอบถาม


พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงสอบถามพระฉัพพัคคีย์ว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย
ข่าวว่า พวกเธอพักแรมอยู่ในกองทัพเกิน 3 ราตรี จริงหรือ.
พระฉัพพัคคีย์ทูลรับว่า จริง พระพุทธเจ้าข้า.

ทรงติเตียนแล้วบัญญัติสิกขาบท


พระผู้มีพระภาคพุทธเจ้าทรงติเตียนว่า ดูก่อนโมฆบุรุษทั้งหลายไฉน
พวกเธอจึงได้พักแรมอยู่ในกองทัพเกิน 3 ราตรีเล่า การกระทำของพวกเธอนั่น
ไม่เป็นไปเพื่อความเลื่อมใสของชุมชนที่ยังไม่เลื่อมใส หรือเพื่อความเลื่อมใสยิ่ง
ของชุมชนที่เลื่อมใสแล้ว . . .

ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็แลพวกเธอพึงยกสิกขาบทนี้ขึ้นแสดงอย่างนี้ ว่า
ดังนี้:-

พระบัญญัติ


98. 9. อนึ่ง ปัจจัยบางอย่างเพื่อจะไปสู่เสนา มีแก่ภิกษุนั้น
ภิกษุนั้นพึงอยู่ได้ ในเสนาเพียง 2-3 คืน ถ้าอยู่ยิ่งกว่านั้น เป็น
ปาจิตตีย์.
เรื่องพระฉัพพัคคีย์ จบ

สิกขาบทวิภังค์


[568] คำว่า อนึ่ง ปัจจัยบางอย่างเพื่อจะไปสู่เสนา มีแก่
ภิกษุนั้น คือ มีเหตุ ได้แก่ มีกิจจำเป็น.
คำว่า ภิกษุนั้นพึงอยู่ได้ในเสนาเพียง 2-3 คืน คือ พึงอยู่ได้
2-3 คืน.
คำว่า ถ้าอยู่ยิ่งกว่านั้น ความว่า เมื่ออาทิตย์อัสดงในวันที่ 4 แล้ว
ภิกษุยังอยู่ในกองทัพ ต้องอาบัติปาจิตตีย์.

บทภาชนีย์


ติกปาจิตตีย์


[569] เกิน 3 คืน ภิกษุสำคัญว่าเกิน อยู่ในกองทัพ ต้องอาบัติ
ปาจิตตีย์.
เกิน 3 คืน ภิกษุยังแคลงอยู่ อยู่ในกองทัพ ต้องอาบัติปาจิตตีย์.
เกิน 3 คืน ภิกษุสำคัญว่ายังไม่ถึง อยู่ในกองทัพต้องอาบัติปาจิตตีย์.

ทุกะทุกกฏ


ยังไม่ถึง 3 คืน ภิกษุสำคัญว่าเกิน. . .ต้องอาบัติทุกกฏ.
ยังไม่ถึง 3 คืน ภิกษุยังแคลงอยู่ . . . ต้องอาบัติทุกกฏ.