เมนู

ฉันเป็นหมู่ ภิกษุสำคัญว่ามิใช่ฉันเป็นหมู่ เว้นไว้แต่สมัย ฉัน ต้อง
อาบัติปาจิตตีย์.

ทุกกะทุกกฏ


มิใช่ฉัน เป็นหมู่ ภิกษุสำคัญว่าฉันเป็นหมู่ . . .ต้องอาบัติทุกกฏ.
มิใช่ฉันเป็นหมู่ ภิกษุสงสัย. . .ต้องอาบัติทุกกฏ.

ไม่ต้องอาบัติ


มิใช่ฉัน เป็นหมู่ ภิกษุสำคัญว่ามิใช่ฉันเป็นหมู่ ไม่ต้องอาบัติ

อนาปัตติวาร


[485] ภิกษุฉันในสมัย 1 ภิกษุ 2-3 รูปฉันรวมกัน 1 ภิกษุหลาย
รูปเที่ยวบิณฑบาตแล้วประชุมฉันแห่งเดียวกัน 1 ภัตเขาถวายเป็นนิตย์ 1 ภัต
เข้าถวายตามสลาก 1 ภัตเขาถวายในปักข์ 1 ภัตเขาถวายในวันอุโบสถ 1 ภัต
เขาถวายในวันปาฎิบท 1 ภิกษุฉันอาหารทุกชนิด เว้นโภชนะ ห้า 1 ภิกษุ-
วิกลจริต 1 ภิกษุอาทิกัมมิกะ 1 ไม่ต้องอาบัติแล.
โภชนวรรค สิกขาบทที่ 2 จบ

โภชนวรรค คณโภชนสิกขาบทที่ 2


วินิจฉัยในสิกขาบทที่ 2 พึงทราบดังนี้

[แก้อรรถกถาปฐมบัญญัติ เรื่องพระเทวทัต ]


บทว่า ปริหีนลาภสกฺกาโร มีความว่า ได้ยินว่า พระเทวทัตนั้น
แนะนำให้พระเจ้าอชาตศัตรูปลงพระชนม์พระราชาก็ดี สั่งนายขมังธนูไป (เพื่อ
ปลงพระชนม์พระตถาคต) ก็ดี ทำโลหิตุปบาทก็ดี ได้เป็นผู้ลี้ลับปกปิด, แต่
ในเวลาปล่อยช้างธนบาลก์ไปในกลางวันแสก ๆ นั่นแล ได้เกิดเปิดเผยขึ้น.
คืออย่างไร ? คือ เพราะว่า เมื่อเกิดพูดกันขึ้นว่า พระเทวทัต
ปล่อยช้างไป (เพื่อปลงพระชนม์พระตถาคต) ก็ได้เป็นผู้ปรากฏชัดว่า มิใช่
แต่ปล่อยช้างอย่างเดียว แม้พระราชา พระเทวทัตก็ให้ปลงพระชนม์ ถึงพวก
นายขมังธนูก็ส่งไป แม้ศิลาก็กลิ้ง, พระเทวทัตเป็นคนลามก. และเมื่อมีผู้ถาม
ว่า พระเทวทัตได้ทำกรรมนี้ร่วมกับใคร ? ชาวเมืองกล่าวว่า กับพระเจ้าอชาต-
ศัตรู. ในลำดับนั้น ชาวเมืองก็ลุกฮือขึ้น พูดว่า ไฉนหนอ พระราชาจึง
เที่ยวสมคบโจรผู้เป็นเสี้ยนหนามต่อพระศาสนาเห็นปานนี้เล่า ? พระราชาทรง
ทราบความกำเริบของชาวเมือง จึงทรงขับไสไล่ส่งพระเทวทัตไปเสีย และตั้ง
แต่นั้นมาก็ทรงตัดสำรับ 500 สำรับ แห่งพระเทวทัตนั้นเสีย. แม้ที่บำรุงพระ-
เทวทัตนั้น ก็มิได้เสด็จไป, ถึงชาวบ้านพวกอื่นก็ไม่สำคัญของอะไร ๆ ที่จะ
พึงถวาย หรือพึงทำแก่พระเทวทัตนั้น . ด้วยเหตุนั้น พระธรรมสังคาหกาจารย์
จึงกล่าวว่า มีลาภและสักการะเสื่อมสิ้นแล้ว.
ข้อว่า กุเลสุ วิญฺญาเปตฺวา วิญฺญาปตฺวา ภุญฺชติ มีความว่า
พระเทวทัตนั้น ดำริว่า คณะของเราอย่าได้แตกกันเลย เมื่อจะเลี้ยงบริษัท