เมนู

การกระทำของเธอนั่น ไม่เป็นไปเพื่อความเลื่อมใสของชุมชนที่ยังไม่
เลื่อมใส หรือเพื่อความเลื่อมใสยิ่งของชุมชนที่เลื่อมใสแล้ว. . .
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็แลพวกเธอพึงยกสิกขาบทนี้ขึ้นแสดงอย่างนั้น
ว่าดังนี้:-

พระบัญญัติ


81.2 ก. เป็นปาจิตตีย์ ในเพราะฉันเป็นหมู่.
ก็สิกขาบทนี้ ย่อมเป็นอัน พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงบัญญัติแล้วแก่ภิกษุ
ทั้งหลาย ด้วยประการฉะนี้.
เรื่องพระเทวทัต จบ

เรื่องภิกษุอาพาธ


[476] สมัยนั้นแล ประชาชนนิมนต์ภิกษุทั้งหลาย ผู้อาพาธฉัน
ภัตตาหาร ภิกษุทั้งหลายพากันรังเกียจ ไม่รับนิมนต์ด้วยอ้างว่า การฉันเป็นหมู่
พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงห้ามแล้ว แล้วกราบทูลเนื้อความนั้นแด่พระผู้มี-
พระภาคเจ้า

ทรงอนุญาตให้ภิกษุอาพาธฉันเป็นหมู่ได้


ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงทำธรรมีกถา ในเพราะเหตุเป็น
เค้ามูลนั้น ในเพราะเหตุแรกเกิดนั้น แล้วรับสั่งกะภิกษุทั้งหลายว่า ดูก่อน
ภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตให้ภิกษุผู้อาพาธ ฉันเป็นหมู่ได้.
ก็แลพวกเธอพึงยกสิกขาบทนี้ขึ้นแสดงอย่างนั้น ว่าดังนี้:-

พระอนุบัญญัติ


81.2 ข. เว้นไว้แต่สมัย เป็นปาจิตตีย์ ในเพราะฉัน เป็นหมู่
ในสมัยในเรื่องนั้น คือ คราวอาพาธ ในสมัยในเรื่องนั้น.
ก็สิกขาบทนี้ ย่อมเป็นอันพระผู้มีพระภาคเจ้าทรงบัญญัติแล้วแก่ภิกษุ
ทั้งหลาย ด้วยประการฉะนี้.
เรื่องภิกษุอาพาธ จบ

ทรงอนุญาตให้ฉันเป็นหมู่ในฤดูถวายจีวร


[477] สมัยต่อมาเป็นฤดูที่ชาวบ้านถวายจีวรกัน ประชาชนตกแต่ง
ภัตตาหารพร้อมด้วยจีวร แล้วนิมนต์ภิกษุทั้งหลายด้วยตั้งใจว่า ให้ท่านฉัน
แล้วจักให้ครองจีวร ภิกษุทั้งหลายพากันรังเกียจ ไม่รับนิมนต์ด้วยอ้างว่า
การฉันเป็นหมู่ พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงห้ามแล้ว จีวรจึงเกิดขึ้นเล็กน้อย ภิกษุ
ทั้งหลายได้กราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า ๆ ทรงอนุญาตว่า ดูก่อน
ภิกษุทั้งหลาย ในคราวที่ถวายจีวรกัน เราอนุญาตให้ฉันเป็นหมู่ได้.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็แลพวกเธอพึงยกสิกขาบทนี้ขึ้นแสดงอย่างนั้น
ว่าดังนี้:-

พระอนุบัญญัติ 2


81.2 ค. เว้นไว้แต่สมัย เป็นปาจิตตีย์ ในเพราะฉัน เป็น
หมู่ นี้สมัยในเรื่องนั้น คือ คราวอาพาธ คราวที่เป็นฤดูถวายจีวร
นี้สมัยในเรื่องนั้น.
ก็สิกขาบทนี้ ย่อมเป็นอันพระผู้มีพระภาคเจ้าทรงบัญญัติแล้วแก่ภิกษุ
ทั้งหลาย ด้วยประการฉะนี้.
เรื่องทรงอนุญาตให้ฉันเป็นหมู่ในฤดูถวายจีวร จบ