เมนู

ปาจิตตีย์ วรรคที่ 4


โภชนวรรค สิกขาบทที่ 1


เรื่องพระฉัพพัคคีย์


[470] โดยสมัยนั้น พระผู้มีพระภาคพุทธเจ้าประทับอยู่ ณ
พระเชตวัน อารามของอนาถบิณฑิกคหบดี เขตพระนครสาวัตถี ณ สถานอันไม่
ห่างจากพระนครสาวัตถีนั้น มีประชาชนหมู่หนึ่งได้จัดตั้งอาหารไว้ในโรงทาน
พระฉัพพัคคีย์ครองผ้าเรียบร้อย ถือบาตรจีวรเข้าไปบิณฑบาตยังพระนคร
สาวัตถี เมื่อไม่ได้อาหาร ได้พากันไปสู่โรงทาน ประชาชนตั้งใจอังคาสด้วย
ดีใจว่า แม้ต่อนาน ๆ ท่านจึงได้มา ครั้นวันที่ 2 และวันที่ 3 เวลาเช้า พระ
ฉัพพัคดีย์ครองอันตรวาสกแล้ว ถือบาตรจีวรเข้าไปบิณฑบาตยังพระนคร
สาวัตถี เมื่อไม่ได้อาหาร ได้พากันไปฉันในโรงทาน ครั้นแล้วได้ปรึกษากัน
ว่า พวกเราจักพากันไปสู่อารามทำอะไรกันแม้พรุ่งนี้ก็จักต้องมาที่นี่อีก จึงพา
กันอยู่ในโรงทานนั้นแหละ ฉันอาหารในโรงทานเป็นประจำ พวกเดียรถีย์พา
กันหลีกไป ประชาชนจึงเพ่งโทษติเตียนโพนทะนาว่า ไฉนพวกพระสมณะ
เชื้อสายพระศากยบุตร จึงได้อยู่ฉันอาหารในโรงทานเป็นประจำ อาหารในโรง
ทานเขามิได้จัดไว้เฉพาะท่านเหล่านี้ เขาจัดไว้เพื่อคนทั่ว ๆ ไป.
ภิกษุทั้งหลายได้ยินประชาชนเหล่านั้นเพ่งโทษติเตียนโพนทะนาอยู่
บรรดาที่เป็นผู้มักน้อย. . . ต่างก็เพ่งโทษ ติเตียน โพนทะนาว่า ไฉนพระ-
ฉัพพัคคีย์จึงได้อยู่ฉันอาหารในโรงทานเป็นประจำเล่า. . .

ทรงสอบถาม


พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงสอบถามพระฉัพพัคคีย์ว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย
ข่าวว่าพวกเธออยู่ฉันอาหารในโรงทานประจำ จริงหรือ.
พระฉัพพัคคีย์ทูลรับ ว่า จริง พระพุทธเจ้าข้า.

ทรงติเตียนแล้วบัญญัติสิกขาบท


พระผู้มีพระภาคพุทธเจ้าทรงติเตียนว่า ดูก่อนโมฆบุรุษทั้งหลาย
ไฉนพวกเธอจึงได้อยู่ฉัน อาหารในโรงทานเป็นประจำเล่า การกระทำของพวก
เธอนั่น ไม่เป็นไปเพื่อความเลื่อมใส หรือเพื่อความเลื่อมใสยิ่งของชุมชนที่
เลื่อมใสแล้ว . . .
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็แลพวกเธอพึงยกสิกขาบทนี้ขึ้นแสดงอย่างนั้น
ว่าดังนี้:-

พระบัญญัติ


80.1 ก. ภิกษุพึงฉันอาหารในโรงทานได้ครั้งหนึ่ง ถ้าฉัน
ยิ่งกว่านั้น เป็นปาจิตตีย์.
ก็สิกขาบทนี้ ย่อมเป็นอันพระผู้มีพระภาคเจ้าทรงบัญญัติแล้วแก่ภิกษุ
ทั้งหลาย ด้วยประการฉะนี้.
เรื่องพระฉัพพัคคีย์ จบ

เรื่องพระสารีบุตร


[471] สมัยต่อมา ท่านพระสูตรีบุตร เดินทางไปพระนครสาวัตถี
ในโกศลชนบท ได้ไปยังโรงทานแห่งหนึ่ง ประชาชนตั้งใจอังคาสด้วยดีใจว่า