เมนู

บทภาชนีย์


[464] บิณฑบาตอันภิกษุณีแนะนำให้ถวาย ภิกษุสำคัญว่าแนะนำ
ให้ถวาย ฉัน เว้นไว้แต่คฤหัสถ์ปรารภไว้ก่อน ต้องอาบัติปาจิตตีย์.
บิณฑบาตอันภิกษุณีแนะนำให้ถวาย ภิกษุสงสัย ฉัน เว้นไว้แค่คฤหัสถ์
ปรารภไว้ก่อน ต้องอาบัติทุกกฏ.
บิณฑบาตอันภิกษุณีแนะนำให้ถวาย ภิกษุสำคัญว่าไม่ได้แนะนำให้
ถวาย ฉัน เว้นไว้แต่คฤหัสถ์ปรารภไว้ก่อน ไม่ต้องอาบัติ.
บิณฑบาตอันภิกษุณีผู้อุปสมบทในสงฆ์ฝ่ายเดียว แนะนำให้ถวายภิกษุ
ฉัน เว้นไว้แต่คฤหัสถ์ปรารภไว้ก่อน ต้องอาบัติทุกกฏ.
บิณฑบาตอันภิกษุณีมิได้แนะนำให้ถวาย ภิกษุสำคัญว่าแนะนำให้ถวาย
ฉัน ต้องอาบัติทุกกฏ.
บิณฑบาตอันภิกษุณีมิได้แน่ะนำให้ถวาย ภิกษุสงสัย ฉัน ต้องอาบัติ
ทุกกฏ.
บิณฑบาตอันภิกษุณีมิได้แนะนำให้ถวาย ภิกษุสำคัญว่ามิได้แนะนำ
ให้ถวาย ฉัน ไม่ต้องอาบัติ.

อนาปัตติวาร


[465] ภิกษุฉันบิณฑบาตที่คฤหัสถ์ปรารภไว้ก่อน 1 ภิกษุฉัน
บิณฑบาตอันสิกขมานาแนะนำให้ถวาย 1 ภิกษุฉันบิณฑบาตอันสามเณรีแนะนำ
ให้ถวาย 1 ภิกษุฉันอาหารทุกชนิดเว้นโภชนะห้า 1 ภิกษุวิกลจริต 1 ภิกษุ
อาทิกัมมิกะ 1 ไม่ต้องอาบัติแล.
โอวาทวรรค สิกขาบทที่ 9 จบ

ภิกขุนีวรรค ปริปาจนสิกขาบทที่ 9


วินิจฉัยในสิกขาบทที่ 9 พึงทราบดังนี้

[ว่าด้วยบิณฑบาตที่ภิกษุณีแนะนำให้ถวาย]


คำว่า มหานาเค ติฏฺฐมาเน เป็นทุติยาวิภัตติ ลงในอรรถแห่ง
สัตตมีวิภัตติ. อธิบายว่าเมื่อพระเถระผู้ใหญ่ทั้งหลายมีปรากฏอยู่. อีกอย่างหนึ่ง
ผู้ศึกษาพึงเห็นปาฐะเหลือในคำนี้ ดังนี้ว่า เห็นพระเถระผู้ใหญ่ทั้งหลายมีปรากฏ
อยู่. ความจริง เมื่อว่าโดยประการหลังนี้ ความยังไม่เหมาะ.
ถ้อยคำที่ยังไม่ถึงที่สุด ถึงตรงท่ามกลางแห่งการเริ่มต้นกับที่สุด ชื่อว่า
อันตรากถา.
บทว่า วิปฺปกตา คือ กำลังทำค้างอยู่
คำว่า สจฺจํ มหา นาคา โข ตยา คหปติ มีความว่า ภิกษุณี
ถูลนันทา หลิ่วตามอง เห็นพระเถระทั้งหลายกำลังเข้ามา ทราบว่าพระเถระ
เหล่านั้นได้ยินแล้ว จึงกล่าวอย่างนี้.
บทว่า ภิกฺขุนีปริปาจิตํ ได้แก่ อันภิกษุณีแนะนำให้ถวาย. อธิบายว่า
อันภิกษุณีให้สำเร็จ คือ ทำให้เป็นของควรได้ด้วยการประกาศคุณ. แต่ใน
บทภาชนะแห่งบทนั้น เพื่อทรงแสดงภิกษุณีและอาการที่ภิกษุณีนั้น แนะนำ
ให้ถวาย พระผู้มีพระภาคเจ้าจึงตรัสคำว่า ผู้ชื่อว่าภิกษุณี ได้แก่ สตรีผู้อุปสมบท
ในสงฆ์ 2 ฝ่าย, ที่ชื่อว่าแนะนำให้ถวาย คือ (ภิกษุณีบอก) แก่คนผู้ไม่ประสงค์
จะถวายแต่แรก ดังนี้เป็นต้น.
ในคำ ปุพฺเพ คิหิสมารมฺภา นี้ มีวินิจฉัยดังนี้ :-