เมนู

เมื่อภิกษุณีโดยสารแล้ว ภิกษุจึงโดยสาร ต้องอาบัติปาจิตตีย์.
เมื่อภิกษุโดยสารแล้ว ภิกษุณีจึงโดยสาร ต้องอาบัติปาจิตตีย์.
หรือ โดยสารทั้งสอง ต้องอาบัติปาจิตตีย์.
บทว่า ขึ้นน้ำไป คือ แล่นขึ้นทวนน้ำ.
บทว่า ล่องน้ำไป คือ แล่นลงตามน้ำ.
บทว่า เว้นไว้แต่ข้ามฟาก คือ ยกเว้นแต่ข้ามฟาก.
ในหมู่บ้านกำหนดชั่วไก่บินตก ต้องอาบัติปาจิตตีย์ ทุก ๆ ระยะบ้าน
ในป่าหาบ้านมิได้ ต้องอาบัติปาจิตตีย์ ทุก ๆ กึ่งโยชน์

บทภาชนีย์


ติกปาจิตตีย์


[459] ชักชวนกันแล้ว ภิกษุสำคัญว่าชักชวนกันแล้ว โดยสารเรือ
ลำเดียวกัน ขึ้นน้ำไปก็ดี ล่องน้ำไปก็ดี เว้นไว้แต่ข้ามฟาก ต้องอาบัติปาจิตตีย์
ชักชวนกันแล้ว ภิกษุสงสัย โดยสารเรือลำเดียวกัน ขึ้นน้ำไปก็ดี
ล่องน้ำไปก็ดี เว้นไว้แต่ข้ามฟาก ต้องอาบัติปาจิตตีย์.
ชักชวนกัน แล้ว ภิกษุสำคัญว่าไม่ได้ชักชวนกัน โดยสารเรือลำเดียว
กัน ขึ้นน้ำไปก็ดี ล่องน้ำไปก็ดี เว้นไว้แต่ข้ามฟาก ต้องอาบัติปาจิตตีย์

ติกทุกกฏ


ภิกษุชักชวน ภิกษุณีไม่ได้ชักชวน. . .ต้องอาบัติทุกกฏ
ไม่ได้ชักชวน ภิกษุสำคัญ ว่าชักชวน. . . ต้องอาบัติทุกกฏ
ไม่ได้ชักชวน ภิกษุสงสัย . . .ต้องอาบัติทุกกฏ

ไม่ต้องอาบัติ


ไม่ได้ชักชวน ภิกษุสำคัญว่าไม่ได้ชักชวน. . .ไม่ต้องอาบัติ.

อนาปัตติวาร


[460] ข้ามฟาก 1 ไม่ได้ชักชวนกันโดยสาร 1 ภิกษุณีชักชวน
ภิกษุไม่ได้ชักชวน 1 โดยสารเรือผิดนัด 1 มีอันตราย 1 ภิกษุวิกลจริต 1
ภิกษุอาทิกัมนิกะ 1 ไม่ต้องอาบัติแล.
โอวาทวรรค สิกขาบทที่ 8 จบ

ภิกขุนีวรรค นาวาภิรุหนสิกขาบทที่ 8


พึงทราบวินิจฉัย ในสิกขาบทที่ 8 ดังต่อไปนี้.

[ว่าด้วยการชักชวนกันโดยสารเรือลำเดียวกัน]


บทว่า สํวิธาย ได้แก่ ชักชวนกันมุ่งการเล่นเป็นเบื้องหน้า ด้วย
อำนาจมิตรสันถวะซึ่งเป็นความยินดีของชาวโลก.
บทว่า อุทฺธคามินึ คือ แล่นทวนกระแสของแน่น้ำขึ้นไป. ก็เพราะ
ผู้ซึ่งเล่นกีฬาทางเรือที่แล่นขึ้นทวนน้ำ โดยวิ่งทวนขึ้นไป ท่านเรียกว่า โดยสาร
เรือขึ้นน้ำไป. ด้วยเหตุนั้น ในบทภาชนะแห่งบทว่า อุทฺธคามินึ นั้น เพื่อ
แสดงเฉพาะอรรถเท่านั้น จึงตรัสว่า อุชฺชวนิกาย (แล่นขึ้นทวนน้ำ) ดังนี้.
บทว่า อุโธคามินึ คือ แล่นตามกระแสน้ำลงไป. ก็เพราะผู้ซึ่ง
เล่นกีฬาทางเรือที่แล่นลงตามน้ำ โดยแล่นลงไปทางได้ ท่านเรียกว่าโดยสาร
เรือล่องน้ำไป. ด้วยเหตุนั้น ในบทภาชนะแม้แห่งบทว่า อโธคามินึ นั้น